เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีที่มีคนโพสต์รูป มีชายขี่มอเตอร์ไซค์ 3 คนพ่อแม่ลูก และท้ายมอเตอร์ไซค์มีถังออกซิเจน และมีสายออกซิเจนติดอยู่ที่จมูกของลูกวัย 2 ขวบ โดยมีผู้ถ่ายภาพไว้ได้ วันที่ 9 ก.ค. เวลา 17.10 น.บริเวณตรงข้ามหน้ามหาลัยแม่ฟ้าหลวง และได้มีการแชร์โพสต์ไปในโลกโซเชียล มีทุกคนออกมาคอมเม้นอยากจะรู้สงสัย และอยากช่วยเหลือ ต่อมาทราบชื่อนายยี่มน นามแสง อายุ 33 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 222 ม.8 ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย มีอาชีพเป็นพนักงานปลูกผักสวนครัวอยู่ ศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ มีภรรยาชื่อนางมล นามแสง อายุ 28 ปี และมีลูกชาย 2 คน และมีแม่ของนายยี่มนวัย 78 ปี อาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน 5 คน ลูกคนเล็กกำลังป่วยโรคชื่อ ดช.นายติพงษ์ นามแสง อายุ 2ปี 2 เดือน เป็นโรคปอด และหอบหืด ทั้งหมด 5 คนอาศัยอยู่ภายในบ้านหลังเดียวกัน โดยมีนายยี่มน เป็นผู้หาเลี้ยงครอบครัว
จากการสอบถามทราบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้มีคนนำรูปตัวเองที่ขี่มอเตอร์ไซค์พร้อมลูกและภรรยา และท้ายมอเตอร์ไซค์ถังออกซิเจนพะรุงพะรังต่อไปยังจมูกลูก เกิดจากจะต้องนำตัวลูกชายไปรักษาตัว ที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ นายยี่มนได้ลางานตื่นตั้งแต่ 04.00 น.นำถังออกซิเจนมันติดท้ายรถ เพื่อเตรียมตัวเดินทางไปตามแพทย์นัด หลังจากเขาพบแพทย์ ก็เดินทางกลับบ้านในช่วงเย็น พอมาถึงหน้ามหาลัยแม่ฟ้าหลวง มีคนถ่ายรูปไปแชร์ในโลโซเชียล จนมีคนโทรมาถามอยู่ตลอด
โดยนายยี่มนเล่าว่า ตนเองได้ทำงานอยู่ศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ ได้ 8 ปี ตั้งแต่เงินเดือน 7000 บาท จนปัจุบันได้ 9000 บาท เก็บเงินออมาทยอยสร้างบ้าน 7 เดือนที่ผ่านมาลูกคนเล็กเริ่มมีอาการหายใจไม่ออก หายใจติดขัดจึงนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลอำเภอแม่สายจนดีขึ้น อยู่มาได้ 2 วันลูกก็มีอาการเหมือนเดิมขึ้นมาอีก ก็นำตัวไปรักษาโรงพยาบาลแม่สาย ทางโรงพยาบาลได้ส่งตัวไปรักษาตัวต่อยังโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ระหว่างที่จะนำตัวลูกไปรักษาตัวโรงพยาบาล จะต้องใส่สายออกซิเจน มีถังติดไปด้วย จึงพากันไปขึ้นรถโดยสารสถานีขนส่งแม่สาย แต่มีเหตุรถตู้โดยสารไม่ยอมรับ เห็นว่ามีถังออกซิเจนด้วย นายยี่มนเกิดอาการน้อยใจในโชคชะตา แต่ก็ต้องนำลูกไปรักษาตัวให้ได้จะทำไงรถยนต์ก็ไม่มี นั่งคิดอยู่หน้าบ้านมองเห็นมอเตอร์ไซค์คู่ใจ ที่นำไปทำงานทุกวัน จึงคิดเอาถังออกซิเจนมันติดหลังมอเตอร์ไซค์ นำลูกนั่งตรงกลาง ภรรยานั่งซ้อนท้าย พร้อมใส่สายออกซิเจนให้ลูกตลอดทาง ไปตามแพทย์นัดเดือนละ 1 ครั้ง เป็นแบบนี้มา 7 เดือน และในช่วงระยะแรกลูกนอนอยู่ห้อง ICU ขี่มอเตอร์ไซค์แม่สาย-เชียงราย ไปกลับหลายรอบ เคยเอามอเตอร์ไซค์ไปล้มถลอกเป็นแผลช้ำตามตัว แต่ก็ต้องวิ่งไปวิ่งมาเพราะทำงาน หากหยุดงานก็จะโดนหักเงินไม่ถึง 9000 บาท จะทำให้ค่าใช้จ่ายภายในบ้านลำบากขึ้น
ระหว่างลูกรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลก็มีค่าใช้จ่ายต่างๆ ตามมามากขึ้น จากหามาได้ต้องเลี้ยงปากเลี้ยงท้องคนในบ้าน 5 ชีวิต แต่ตอนนี้ลูกคนเล็กป่วย จะต้องเติมออกซิเจนถังละ 150-200 บาท 12 วัน 3 ถัง และค่าไฟฟ้าที่ใช้ทำเครื่องพ่นออกซิเจนเดือนละ 1300 บาทต่อเดือน ทำให้มีค่าใช้จ่ายภายในครอบครัวต่อเดือนเพิ่มมากขึ้น ลำพังเงินเดือนก็ไม่พอจ่าย ปัจุบันไปกู้หนี้ยืมสินมาเป็นแสนเพื่อนำไปรักษาตัวลูกชายให้หายให้ได้
นายยี่มน ยังเล่าอีกว่า ตอนนี้กลัวที่สุดคือ เรื่องไฟฟ้าในหมู่บ้านที่ตนเองอาศัยอยู่ เป็นหมู่บ้านอยู่ท้ายๆ ไม่มีเอกสารสิทธิ์ ฟ้าฟ้าเข้าไม่ถึง ปัจจุบันต้องลากสายไฟ 1 หม้อ 15 แอมป์ ใช้ทั้ง 33 หลังคาเรือน ช่วงเวลาเลิกเรียนเด็กกลับถึงบ้าน เปิดทีวี พัดลม ผู้ปกครองทำอาหาร ทำให้ไฟตก ต้องแบ่งกันใช้ไฟฟ้าจนกว่าจะดึก ไฟจะมาตามปกติ บางครั้งระหว่างไฟตกเครื่องทำออกซิเจน ไม่ทำงานเต็มกำลังทำให้ลูกคนเล็กไม่ได้รับออกซิเจนเข้าไปเต็มที่ ถึงกับปากเขียวไปแล้วหลายครั้ง ต้องรีบวิ่งไปเติมถังให้เต็มไว้ตลอดเวลา วอนขอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดึงไฟฟ้าเข้ามา เพื่อใช้กับเครื่องพ่นออกซิเจน ลำพังตนเองไม่สามารถทำได้ ส่วนการเข้าช่วยเหลือเบื้องต้น กู้ภัยสมาคมปิยะมิตรร่วมใจได้อาสาไปส่งโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ทุกเดือนเมื่อแพทย์นัด และจะนำถังออกซิเจนมาสำรองให้
ขณะสอบถามข้อมูลนายยี่มน ดูมีอาการซึมเศร้าเหน็ดเหนื่อยอย่างเห็นได้ชัด คงเหน็ดเหนื่อยการทำงานหาเงินดูแลลูกที่ป่วย และต้องเลี้ยงคนภายในบ้านรวม 5 คน และลำพังเงินเดือน 9000 บาท ที่ต้องดูแลครอบครัว หากหยุดงานจะถูกหักเงิน ส่วนภรรยาคู่ใจก็ต้องคอยดูแลลูกที่กำลังป่วยหนัก ไม่สามารถห่างจากเครื่องออกซิเจน หากออกไปทำงานกันหมดหวั่นกลับมาจะไม่ได้เห็นลูกรักที่กำลังซนน่ารัก ส่วนเด็กชายนายติพงษ์ นามแสง มีอาการร่าเริงเมื่ออยู่กับพ่อแม่ ทำให้เป็นกำลังใจนายยี่มน ในการต่อสู้ชีวิตเผชิญกับปัญหาที่จะตามมาท่านใดมีความประสงค์จะร่วมทำบุญให้น้องนายติพงษ์ นามแสง หรือเป็นกำลังใจให้กับครอบครัวนายยี่มน นามแสง สามารถบริจาคได้ที่เลขบัญชี 636-232947-1 ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาแม่สาย
