เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ที่กองบัญชาการมณฑลทหารบกที่ 45 พล.ต.มโนช จันทร์คีรี ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 45 และผู้บัญชาการควบคุมมณฑลทหารบกที่ 45 พร้อม พ.ต.อ.วิรุฬห์ สุวรรณวงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี และเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรสุราษฎร์ธานี ร่วมแถลงจับกุม นายเจริญ แซ่จู้ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 249/48 ถนนศุลกานุกูล ต.พิมาน อ.เมือง จ.สตูล ผู้ต้องหาลักลอบขนสินค้าหนีภาษี พร้อมของกลางบุหรี่ยาสูบผลิตจากประเทศอินโดนีเซีย จำนวน 87 ลัง รวม 43,500 ซอง ประกอบด้วย ยี่ห้อมาร์ลโบโร สีแดง 49 ลัง จำนวน 24,500 ซอง ยี่ห้อกาแรม 38 ลัง จำนวน 19,000 ซอง และรถบรรทุก 10 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ ทะเบียน 70-0668 สตูล ได้ที่บริเวณสี่แยกหนองนิล อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา
พล.ต.มโนชกล่าวว่า ชุดจับกุมนำโดย พ.ท.อินทัช รอดทอง และ ร.ท.ฐิติกานต์ เวชสิทธิ์ ทหารสังกัดกองบัญชาการควบคุม มณฑลทหารบกที่ 45 สืบทราบว่าจะมีการลักลอบขนสินค้าหนีภาษี โดยใช้เส้นทางถนนทางหลวงเอเชีย 41 ขาลงใต้ลงไปยัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จึงนำกำลังไปดักซุ่มที่สี่แยกหนองนิล อ.ท่าชนะ จนเห็นรถบรรทุก 10 ล้อคันดังกล่าวขับมามีพิรุธจึงขอตรวจค้น เบื้องต้นพบเป็นรถรับจ้างบรรทุกอาหารสัตว์และหัวอาหารสัตว์มาจาก จ.นครปฐม จะไปส่งให้ลูกค้าที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
“เมื่อตรวจค้นอย่างละเอียดพบบุหรี่ลักลอบนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งไม่ได้ชำระภาษีอากรจำนวนมาก นายเจริญ คนขับรถรับสารภาพว่า รับจ้างไปส่งให้ลูกค้าที่ อ.หาดใหญ่ ได้ค่าจ้างลังละ 250 บาท หรือเที่ยวละ 50,000 บาท ทำมาแล้ว 5 ครั้ง รวมมูลค่าที่รัฐเสียหายกว่า 8 ล้านบาท” พล.ต.มโนชกล่าว
พล.ต.มโนชกล่าวว่า จากมาตรการคุมเข้มของ คสช.ที่ผ่านมาทำให้การลักลอบขนสินค้าหนีภาษีจากประเทศเพื่อนบ้านทางตอนใต้ของไทยเข้ามาได้ยาก ทำให้สินค้าขาดตลาด ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่มีการพบขนสินค้าหนีภาษีจากประเทศเพื่อนบ้านอ้อมขึ้นไปใช้เส้นทางภาคกลาง ลักลอบขนกลับลงสู่ภาคใต้จนถูกจับกุมได้ จึงแจ้งข้อหาช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใดๆ ซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากรข้อห้ามหรือข้อจำกัด ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
