“รองผู้ว่าฯสมุทรสงคราม” แถลงคืบหน้าหาค้นหาผู้สูญหายปรับแผนทำงาน

เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 17 กรกฎาคม 2562 นายประจินต์ ธารศิริสิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นประธานแถลงข่าวความคืบหน้ากาค้นหาผู้สูญหาย พร้อมด้วยนายสุเมธ ธีรนิติ ปลัดจังหวัดสมุทรสงคราม, พ.ต.อ.สิทธิพงศ์ วัศรากิจ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสงคราม, นายอารุณ ปินตา หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดฯ, นายอุทัย ดำรงธรรม ผู้แทนมูลนิธิ และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวผลความคืบหน้าในการค้นหาผู้สูญหาย จำนวน 1 ราย ซึ่งได้ดำเนินการค้นหามาตั้งแต่เวลา 17.00 น.ของวันที่ 16 กรกฎาคม 2562 พบปัญหาและอุปสรรคในการค้นหาผู้สูญหายที่อาจติดค้างในโครงการสร้างอาคารใต้อาคารใต้น้ำ ซึ่งการยกโครงสร้างอาคาร โดยใช้เครนขนาด 25 ตัน จากการตรวจสอบโครงสร้างอาคาร โดยสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัด ตรวจสอบพบว่าน้ำหนักโครงสร้างอาคารโดยรวม มีน้ำหนักรวมทั้งสิ้น 80 ตัน เป็นหลังคา 20 ตัน พื้น เสา คาน 60 ตัน ซึ่งเกินพิกัดของการทำงานของรถเครน ทำให้เกิดเหตุการณ์รถเครนโยกอย่างที่เห็น ซึ่งน่ากลัวมากว่าจะเกิดอันตราย จึงจำเป็นต้องลดน้ำหนักโครงสร้างอาคาร โดยการรื้อถอนทำลายกระเบื้องมุงหลังคาและฝ้าเพดาน ไม่ระแนง พร้อมโครงสร้างทั้งหมด เพื่อแยกชิ้นส่วนให้มีน้ำหนักเบาที่สุด และขอสนับสนุนเรือโป๊ะ ชนิดมีเครน ขนาด 50 ตัน มายกตัวอาคารโครงการอาคารร่วมกับรถเครน ส่วนการค้นหาผู้สูญหายภายในอาคารโครงสร้างอาคารของหัวหน้าทีมค้นหาใต้น้ำ ไม่สามารถเข้าไปค้นหาภายในได้ เนื่องจากมีสิ่งกีดขวางจำนวนมากและมีน้ำหนักมากยากต่อการเคลื่อนย้าย

ส่วนการหาผู้รับผิดชอบนั้นนายประจินต์บอกว่า ขณะนี้ขอให้คำนึงถึงจิตใจของผู้สูญเสีย อยากให้มุ่งเน้นเป็นประการสำคัญที่สุด ในการค้นหาผู้สูญหาย จากนั้นจะมีขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

นายปิยะลักษณ์ ถิ่นแก้ว หัวหน้าหน่วยกู้ชีพร่วมกตัญญู กล่าวว่า เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม2562 อาคารที่ถล่มลงไปในน้ำนอนกองกับพื้นประมาณ 40-45 องศา เมื่อค่ำวันเดียวกันได้เข้าไปตรวจสอบบริเวณจุดที่คาดว่าผู้สูญหายจะติดอยู่ภายในบริเวณขวามือด้านล่าง พบเจอวัตถุต่างๆกองอยู่จำนวนมาก หากร่างผู้สูญหายอยู่บริเวณนี้จะทำให้ยากต่อการให้ความช่วยเหลือ ซึ่งขณะนี้มีความหวัง 2 กรณีคือร่างผู้สูญหายติดอยู่บริเวณนี้ และ ร่างผู้สูญหายหลุดจากโครงสร้างไปก็อาจจะพบลอยสู่ผิวน้ำเร็วๆนี้ แต่จากการนำเรือออกลาดตะเวนยังไม่พบแต่อย่างใด ซึ่งตลอดทั้งวันพยายามที่จะเคลียสิ่งของภายในออกให้หมด ซึ่งยังมีความหวัง แต่จาการลงไปตรวจสอบล่าสุด การทำงานในวันนี้ทำให้เกิดการสั่นสะเทือน การใช้รถเครนดึงโครงสร้างหลักไม่เป็นผล ประกอบกับกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว ทำให้สันดอนดินด้านล่างถูกกัดเซาะ ทำให้เปลี่ยนเป็น 90 องศา บริเวณที่คาดว่าผู้สูญหายจะอยู่ตกลงไปจุดที่ต่ำที่สุด ทำให้ใช้รถเครนดึงสิ่งกีดขวางยากขึ้นอีก จึงปรับแผนในการรื้อโครงสร้างหลักดังกล่าว เพื่อให้น้ำหนักเบา หรือหากสามารถรื้อหลังคาได้ทั้งหมด ก็จะทำให้การค้นหาง่ายขึ้น นอกจากนี้จะนำเรือเครนมาช่วยในการยกโครงสร้างขึ้นมา ก็จะสามารถนำร่างผู้สูญหายออกมาได้

ด้านนายอุทัย ดำรงธรรม กล่าวว่า แนวทางแก้ไข คือ ลดน้ำหนักโครงสร้างอาคาร โดยการรื้อถอน ทำลายกระเบื้อง มุงหลังคาและฝ้าเพดาน ไม้ระแนว พร้อมโครงทั้งหมด และนำเรือโป๊ะ ชนิดมีเครน ขนาด 50 ตัน มายกตัวโครงสร้างอาคารร่วมกันรถเครน จะสามารถยกอาคารขึ้นได้อย่างแน่นอน

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image