เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม นายวิศัลย์ โฆษิตานนท์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวถึงกรณีเสนอให้มีการปลดล็อกผังเมืองรวมเพชรบูรณ์ ที่กำหนดให้บางพื้นที่ห้ามก่อสร้างโรงแรม ในพื้นที่ที่มีศักยภาพในด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว อาทิ เขาค้อ, ภูทับเบิก รวมทั้งพื้นที่รองรับการขยายตัวของเมือง ระหว่างการร่วมประชุมกับคณะทำงานปรับปรุงผังเมืองรวมเพชรบูรณ์ กรมโยธาธิการและผังเมืองก่อนหน้านี้ว่า เนื่องจากผังเมืองรวมเพชรบูรณ์ที่ประกาศใช้เมื่อปี 2560 ปัจจุบันนี้อยู่ในระหว่างขั้นตอนของการแก้ไขปรับปรุง และอยู่ในขั้นตอนระหว่างการรับฟังความคิดเห็นทุกภาคส่วนที่มีส่วนได้ส่วนเสีย ซึ่งเมื่อพิจารณาดูแล้วจะมีบางแปลงหรือบางบล็อก ที่มีการกำหนดเป็นพื้นที่สีเขียว ซึ่งเป็นพื้นที่เพื่ออนุรักษ์เกษตรกรรมและการอนุรักษ์ชนบท ไม่สอดคล้องกับสภาพปัจจุบัน
“เมื่อดูในรายละเอียดเกี่ยวกับพื้นที่เหล่านี้แล้ว จะมีการห้ามจัดสรรที่ดินเพื่อการพาณิชย์หรือที่อยู่อาศัยและห้ามสร้างโรงแรม แม้ตรงนี้มีหลายบล็อกที่ควรจะต้องห้าม แต่ก็มีอีกหลายบล็อกที่มีศักยภาพในการส่งเสริมการท่องเที่ยว อย่างเช่นที่เขาค้อ, ภูทับเบิก, ริมถนนทางหลวงหมายเลข 12, ริมทางหลวงหมายเลข 21 ซึ่งการห้ามเกินไปในลักษณะนี้จะก่อให้เกิดการขยายเมืองไม่ได้ และยังทำให้เมืองหยุดยั้งการเจริญเติบโตซึ่งไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง ในขณะที่บางพื้นที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยว แต่การไปห้ามก่อสร้างทั้งหมดคงเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง หากเป็นห่วงเรื่องการก่อสร้างโรงแรมที่มีอาคารสูงๆ ซึ่งอาจไปบดบังทัศนวิสัย จึงเสนอให้กำหนดประเภทโรงแรมหรือการออกแบบ ที่ไม่ไปกระทบหรือทำให้เสียบรรยากาศการอนุรักษ์ตามที่เราต้องการ” นายวิศัลย์กล่าว
นายวิศัลย์กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ประเด็นดังกล่าวทางคณะทำงานก็รับไปที่จะปรับปรุง และจะนำกลับมาเข้าที่ประชุมเพื่อรับฟังความเห็นอีกครั้ง ขณะเดียวกันการที่นำเสนอไม่ได้ขอบล็อกที่เป็นสีเขียวทั้งหมด แต่ขอให้มีการเปลี่ยนแปลงเฉพาะบล็อกที่มีศักยภาพด้านการขยายตัวของเมือง และศักยภาพด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะบล็อกเหล่านี้ไม่ใช่เป็นบล็อกเพื่อการอนุรักษ์ป่าไม้หรือป่าสงวนฯ แต่เป็นบล็อกเพื่ออนุรักษ์เกษตรกรรมและชนบท ซึ่งก็มีชุมชนหรือทำเกษตรกรรมอยู่แล้วและไม่สามารถจะกลับมาเป็นป่าได้อีก ฉะนั้น หากจะมีการสร้างอาชีพและสร้างรายได้จากอาชีพอื่น ก็ไม่ควรที่จะสงวนหรือหวงห้ามไว้
