ผู้ว่าฯราชบุรี-ส.ส.พปชร. เข้าเยี่ยมแม่ “ดร.เป็ด” เหยื่อเก๋งชนรถตู้ตกทางด่วน 9 ศพ (ชมคลิป)

วันที่ 18 กรกฎาคม ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เข้าเยี่ยม นางถวิล เช้าเที่ยง แม่ของ ดร.เป็ด เหยื่อเก๋งชนรถตู้ตกทางด่วนเสียชีวิต 9 ศพ เมื่อปี 2553 หลังศาลตัดสิน แต่ยังไม่ได้รับการเยียวยาจากคู่กรณี

นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี พร้อมด้วย นายรณภพ เวียงสิมมา นายอำเภอเมือง นายอภัย เอียดบัว ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติและยุติธรรมจังหวัดราชบุรี นางสาวลักขณา โมกขทันธ์ นิติกรชำนาญการ รักษาการแทน ผู้อำนวยการสำนักงานบังคับคดีราชบุรี นางสาวกุลวลี นพอมรบดี ส.ส.เขต 1 ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ได้เดินทางเข้าเยี่ยม นางถวิล เช้าเที่ยง อายุ 71 ปี อยู่บ้านเลขที่ 187 /21 ซอย 9 มนตรีสุริยวงศ์ เขตเทศบาลเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี เพื่อสอบถามความคืบหน้าคดีของ ดร.ศาสตรา เช้าเที่ยง หรือ ดร.เป็ด อดีตนักวิทยาศาสตร์ประจำ สวทช. ซึ่งขณะนั้นเพิ่งจบการศึกษาปริญญาเอกจากประเทศอังกฤษ บุตรชาย ที่เป็น 1 ใน 9 คน ที่เสียชีวิตจากเหตุรถเก๋งชนตู้โดยสารบนทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 27 ธันวาคม 2553 โดยศาลได้ตัดสินดคีสิ้นสุดแล้ว แต่คู่กรณี คือ นางสาวแพรวา หญิงสาวนามสกุลดัง ก็ยังไม่มาติดต่อพูดคุยเรื่องการช่วยเหลือเยียวยาแต่อย่างใด

นางถวิล เช้าเที่ยง แม่ของ ดร.เป็ด เปิดเผยว่า ตอนนี้ก็อยู่กันไปแบบนี้ ไม่อยากเรียกร้องอะไร เพราะศาลได้ตัดสินให้มาแบบนั้นแล้ว เราไม่เคยเรียกร้อง ศาลตัดสินมาอย่างไรก็ไม่เคยสู้ และไม่เคยอุทธรณ์ ในกลุ่มบอกว่าเขาตายกันเยอะ เราอย่าไปเรียกร้องเขาเลยแค่นี้ที่ให้มาก็พอแล้วรวมกัน 9 คน ในเอกสารที่ศาลเขียนมาให้จะได้เงินจำนวน 1 ล้าน 5 แสนบาท มีบางคนจะได้เงินไม่เท่ากัน แต่มองว่าเขาก็ยังไม่อยากทำตามที่เขาพูดไว้ ตัวเองรู้สึกพอใจในคำตัดสินของศาล

รู้สึกดีใจที่ทราบว่ามีหน่วยงานต่างๆ ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ตอนนี้อยู่บ้านกับหลานอีกคนหนึ่ง มีอาชีพขายดอกไม้อยู่ตลาดราบุรีขายอยู่ทุกวัน บางวันก็ขายไม่ได้เงินเลย ตอนนี้คงรอทางทนายความที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่จะคอยช่วยเหลืออยู่ ไม่อยากให้เขาไปยึดทรัพย์ อย่าไปยืดเยื้อให้เสียเวลาเลย ตัวเองมีอายุมากที่สุดในบรรดาญาติของผู้เสียชีวิต อย่ายืดเยื้อเวลาต่อไปอีกเลย

Advertisement

ด้านนายอภัย เอียดบัว ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติและยุติธรรมจังหวัดราชบุรี เปิดเผยว่า ทางกระทรวงยุติธรรมโดยกองทุนยุติธรรมได้ช่วยเหลือมาตั้งแต่ต้นแล้ว เมื่อปี 2553 แล้ว ในส่วนที่สามารถช่วยเหลือได้ ในคนที่ฐานะยากจนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมไม่ได้ และที่กฎหมายอื่นไม่ดูแลอยู่ ซึ่งตอนนั้นตาม พรบ.ผู้ประสบภัยจากรถได้ดูแลอยู่ส่วนหนึ่งไปแล้ว

ส่วนของจำเลยเอง เข้าใจว่าเบื้องต้นชดใช้ค่าเสียหายถ้าจำไม่ผิดประมาณ 40,000 บาท โดยได้เยียวยาเบื้องต้นไปทั้ง 2 ส่วนแล้วไประดับหนึ่ง ทางกองทุนยุติธรรมมีกรรมการส่วนกลางกรณีวินิจฉัยว่าเงินที่จะช่วยเหลือมีจำนวนน้อยกว่าเงิน พรบ. ซึ่งได้ช่วยไปแล้วในส่วนนั้น แต่ว่านาทีนี้เท่าที่ดูข้อมูลนั้นในส่วนชั้นนี้สิ้นสุดคดีแล้ว ทางศาลฎีกาก็จะมีปัญหาว่าถ้าจำเลยยังไม่ชดใช้ค่าเสียหาย จะทำอย่างไรกฎหมายจึงจะมีผลบังคับใช้ อาจจะต้องมีการสืบทรัพย์ คือ ให้ไปดูว่าจำเลยมีทรัพย์สินอะไรบ้าง เพื่อจะขายทรัพย์สินนั้นเอามาจ่ายให้กับฝ่ายผู้เสียหายทุกราย ซึ่งเป็นปัญหาว่าทางฝ่ายคู่กรณีมีทรัพย์อะไรบ้างซึ่งอาจจะต้องใช้ความเป็นวิชาชีพ ส่วนใหญ่ต้องจ้างทนายความเพราะต้องใช้วิชาชีพในการสืบทรัพย์เอาข้อมูลเพื่อนำไปยื่นต่อศาล

ข่าวรอบด้าน กับ Line@มติชนนิวส์รูม คลิกเป็นเพื่อนกัน ได้ที่นี่

Advertisement

เพิ่มเพื่อน

ขั้นตอนคงไม่ยุ่งยากเพราะผลคำพิพากษาออกมาแบบนี้ หลายฝ่ายได้เข้าช่วยกัน อีกทั้งทางสำนักงานอัยการสูงสุดก็บอกว่าเขียนคำร้องในความจริงก็ไม่ยากอะไรมาก คิดว่านาทีส่วนราชการที่รับผิดชอบคงจะเข้าไปดูแลอยู่ ในส่วนกระทรวงยุติธรรมจะรอดูว่า แนวทางจะให้ฝ่ายไหนเป็นผู้ดำเนินการ เพราะเข้าใจว่าทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ก็ได้ดูแลเรื่องนี้อยู่แต่ต้นมีรายละเอียดในคดี คิดว่าไม่น่ามีปัญหาการที่จะให้บังคับใช้ตามกฎหมาย

ระยะเวลาโดยกฎหมายในการบังคับคดีใช้เวลา10 ปี เป็นไปตามคำพิพากษาซึ่งหลักฐานต่างๆจะอยู่ที่ส่วนราชการทั้งหมด โดยการสืบทรัพย์เป็นวิชาชีพที่ไม่ยาก ซึ่งจะไปดูว่ามีเงินอยู่ที่ไหนบ้าง เพื่อนำมาแบ่งให้กับทางฝ่ายผู้เสียหายได้

อย่างไรก็ตามทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้มอบเงินจำนวนหนึ่งพร้อมกับนางสาวกุลวลี นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ ได้มอบกระเช้าผลไม้เป็นกำลังใจ และรับปากจะนำเรื่องดังกล่าวรายงานต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมทราบด้วย

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image