เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม ที่กรมทหารพรานที่ 43 ค่ายอิงคยุทธบริหาร ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี พลตำรวจตรี ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี พร้อมด้วย นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอหนองจิก พันเอก หาญพล เพชรม่วง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ได้เชิญ นางสิริกร ซาเราะ อายุ 45 ปี พยานปากสำคัญบินมาจาก อ.พรหมบุรี จ.สุรินทร์ เพื่อชี้ตัวผู้ก่อเหตุคดียิง อาสาสมัครทหารพราน มูฮามะสอบรี ซาเราะ ซึ่งเป็นสามี สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 4209 กรมทหารพรานที่ 42 เสียชีวิตในพื้นที่ บ้านบือนังราเมาะ หมู่ที่ 4 ตำบลมะนังดาลำ อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2557
สืบเนื่องจาก ผลการติดตามตรวจสอบข้อมูลจากพยานหลักฐาน และแหล่งข่าวจนสามารถจับกุมผู้ต้องหา คือ นายอิบรอเฮม มะเซ็ง ได้ในพื้นที่ หมู่ที่ 1 ตำบลปะกาฮารัง อำเภอเมืองปัตตานี เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2562 หลังจากถูกจับกุม นายอิบรอเฮม ได้รับสารภาพว่าตนเองเป็นผู้ก่อเหตุยิง อาสาสมัครทหารพราน มูฮามะสอบรี นอกจากนี้ยังได้ซัดทอดยังผู้ร่วมขบวนการอีก 3 คน คือ นายอะมะ จอเระห์ (จอปี) ผู้ทำหน้าที่สั่งการ, นายรออีซะ แวอาแซ (แบรู) ผู้เช็กเป้า และนายอับดุลเลาะ มูดอ (อับดุลเลาะ) ผู้ดูต้นทาง ซึ่งในขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ออกหมายจับแล้ว
โดยเจ้าหน้าที่ได้เชิญ นางสิริกร ซาเราะ พยานเข้าไปยังห้องชี้ตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำผู้ต้องหายืนปะป่นกับบุคคลอื่น โดยการติดหมายเลขที่ตัวเพื่อให้พยานชี้ตรงหมายเลข โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการสลับในการชี้ตัว จำนวน 2 ครั้ง โดยครั้งแรกพยานชี้หมายเลข 4 และครั้งที่ 2 ชี้หมายเลข 2 ซึ่งก็ชี้ตรงตัวนายอิบรอเฮม มะเซ็ง ผู้ต้องหา
พลตำรวจตรี ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า คดีนี้ถือเป็นคดีสำคัญซึ่งผู้ต้องหาเป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการก่อความไม่สงบในพื้นที่อำเภอสายบุรี มีหมายจับ จำนวน 6 หมายเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2557 ซึ่งผู้ต้องหาเป็นผู้ก่อเหตุลงมือยิง อาสาสมัครทหารพราน มูฮามะสอบรี ซาเราะ วันนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวพยานสำคัญคือ นางสิริกร ซาเราะ ภรรยาของผู้เสียชีวิต ซึ่งเดินทางมาจากต่างจังหวัดเพื่อมาชี้ตัวผู้ต้องหาเพื่อให้รูปของคดีมีความหนักแน่นมากยิ่งขึ้น สำหรับคดีต่างๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ทางกองกำลังทั้งสามฝ่ายได้บูรณาการการทำงานร่วมกัน แม้เหตุการณ์จะเกิดขึ้นมานานกว่า 5 ปีแล้ว แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ยังดำเนินการติดตามอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังได้รับความร่วมมือจากประชาชนในการแจ้งข่าวสารในพื้นที่จึงทำให้กระบวนการจับกุมคดีต่างๆง่ายยิ่งขึ้น
ทางด้าน นางสิริกร ซาเราะ ภรรยาของผู้เสียชีวิต ได้เล่าถึงเหตุการณ์ทั้งน้ำตาว่า วันเกิดเหตุตนกับสามีตั้งร้านขายของที่ตลาด คนร้ายมา 3 คนทำทีมาซื้อของ จากนั้นคนร้ายก็ใช้อาวุธปืนยิงสามีต่อหน้าต่อตา ตนจึงทิ้งของแล้วเข้าไปกอดสามี คนร้ายยังได้ยิงซ้ำอีก 2 นัดเข้าหัวใจและหน้าอก ตนเห็นท่าไม่ดีขืนอยู่คงต้องตายแน่ จึงวิ่งหนี ตนเห็นหน้าคนที่ยิงชัดเจน หลังจากสามีเสียชีวิตก็ได้เดินทางกลับบ้านที่ต่างจังหวัด กระทั่ง 5 ปีผ่านไป เจ้าหน้าที่โทรมาแจ้งว่าจับคนร้ายที่ยิงสามีได้แล้ว รู้สึกดีใจมากๆ เพราะคิดเสมอว่าวันหนึ่งต้องจับได้ ตนจึงเดินทางมาปัตตานีเพื่อให้ความร่วมมือในการเป็นพยาน และหากสามียังอยู่จนถึงวันนี้ เชื่อว่าชีวิตดีขึ้นเพราะทุกอย่างกำลังจะดี คิดถึงมาก ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ร่วมกันติดตามคดีดังกล่าวจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ สุดท้ายนี้ตนขอส่งกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ปฏิบัติงานดูแลความสงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อที่จะสร้างความสงบสุขให้เกิดขึ้นในพื้นที่ต่อไป
