เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน โครงการชลประทานพะเยา ได้รายงานสถานการณ์น้ำในกว๊านพะเยาว่า สืบเนื่องจากที่มีฝนตกลงมาแล้วหลายวัน ทำให้ขณะนี้กว๊านพะเยามีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นจาก 10.34 ล้าน ลบ.ม. มาเป็น 11.70 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งทำให้รอดพ้นวิกฤตระบบนิเวศกว๊านพะเยาแล้ว แต่ยังไม่สามารถปล่อยน้ำให้พื้นที่เกษตรกรรมด้านท้ายน้ำได้
นายเตชะพัฒน์ มะโนวงศ์ ผู้ใหญ่บ้านสันต้นผึ้ง หมู่ 6 ต.แม่อิง อ.ภูกามยาว จ.พะเยา หนึ่งในคณะกรรมการผู้ใช้น้ำอิงเขต อ.ภูกามยาว เปิดเผยว่า แม้ว่าขณะนี้จะมีฝนตกลงมาต่อเนื่องหลายวัน ทำให้เกษตรกรชาวนาบางส่วนเริ่มลงมือเตรียมแปลงต้นกล้าข้าวสำหรับใช้ดำนาในฤดูกาลของนาปี 2559 เพราะปีนี้ภัยแล้งรุนแรงทำให้เกษตรกรชาวนาจึงหันมาปรับวิธีการทำนาจากปักดำมาเป็นนาหว่าน เรียกว่าหว่านผง โดยเมื่อเตรียมแปลงนาหลังจากนั้นไถพรวนแล้วหว่านข้าวและไถกลบซ้ำอีกรอบ จากนั้นก็ปล่อยยาวจนกว่าข้าวจะโตและเก็บเกี่ยวได้ สำหรับนาปักดำนั้นจะต้องเตรียมต้นกล้าข้าวประมาณ 1 เดือน จึงจะนำไปปักดำได้ และวิธีการปักดำต้องใช้น้ำ ทำให้เกษตรกรกว่าร้อยละ 80 ที่ทำนาหว่านผงเพื่อต้องการเลี่ยงปัญหาการใช้น้ำ ลดการใช้น้ำลง
นายเตชะพัฒน์กล่าวต่อว่า ประกอบขณะนี้แม้นว่าฝนจะตกติดต่อกันหลายวันก็ตาม แต่ปริมาณน้ำในแม่น้ำอิงยังไม่สูงขึ้น และน้ำในกว๊านพะเยาก็ไม่สามารถปล่อยมาได้เพราะยังไม่เกิน 16 ล้าน ลบ.ม. ส่วนน้ำฝนที่ตกลงในแม่น้ำอิงนั้นถูกดินดูดซึมลงไปหมด และยังพบว่าชาวนาขณะนี้อายุ 50 ปีขึ้น จึงต้องปรับวิธีการทำนาลดขั้นตอนลง จากนาปักดำมาเป็นนาหว่าน
