ป.ป.ช.ชงสำนวน สภ.หัวหิน เรียก 2 อดีต ผอ.รพ.หัวหิน สางคดีเก็บเงินส่วนเกินค่ารักษาต่างชาติ

กรณีนายเออร์วิน บรูท อายุ 50 ปี อดีตวิศวกรรถไฟชาวเนเธอแลนด์ อาชีพเกษตรกร อาศัยอยู่กับภรรยาชาวไทยที่ ต.คลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ร้องเรียนอดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาล (รพ.) หัวหิน 2 ราย นานกว่า 4 ปี ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลตามประมวลกฎหมายอาญา หลังป่วยเป็นโรคมะเร็งลำไส้เข้ารักษาตัวที่ รพ.หัวหิน จำนวน 14 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2558 – 2559 โดยเจ้าหน้าที่อ้างว่าผู้ป่วยเป็นชาวต่างชาติจะต้องจ่ายค่าบริการทั่วไปผู้ป่วยนอกต่างชาติครั้งละ 300 บาท หรือในอัตราร้อยละ 15 ของค่ารักษาพยาบาลรวมค่าเวชภัณฑ์ แต่ไม่มีระเบียบหลักเกณฑ์รองรับการเรียกเก็บเงินค่ารักษาพยาบาลในลักษณะดังกล่าวนั้น

เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม นายทนงศักดิ์ ม่วงมณี ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้มีมติชี้มูล แจ้งผลการพิจารณาให้ผู้ร้องทราบกรณีกล่าวหา 2 อดีตผู้อำนวยการ รพ.หัวหิน ตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน 2562 โดยส่งสำนวนให้พนักงานสอบสวน สภ.หัวหิน ดำเนินการตามประมวลกฎหมายอาญา วิธีพิจารณาความอาญา และส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอำนาจแต่งตั้งหรือถอดถอนดำเนินการทางวินัยตามอำนาจหน้าที่ ตาม พรป. ป.ป.ช.2561 มาตรา 63 และมาตรา 64 จากนั้น สภ.หัวหินต้องดำเนินการตามระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนด ไม่มีโอกาสประวิงเวลาเหมือนกฎหมายเก่า และแจ้งผลให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่รับทราบ

นายเออร์วิน บรูท กล่าวว่า ต้องการให้เรื่องนี้เป็นกรณีศึกษา และขอให้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ออกประกาศหลักเกณฑ์การเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลให้ชัดเจน มีมาตรฐาน โดยยื่นคำร้องให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบการบริหารงานของ รพ.หัวหิน และขอให้ผู้เกี่ยวข้องชี้แจงว่าการเรียกเก็บเงินส่วนเกิน ตั้งแต่ปี 2558-2559 มีจำนวนเท่าใด เป็นรายได้ของทางราชการหรือไม่ สำหรับเช็คเงินสดและเงินสดรวม 12,746 บาท ที่ รพ.หัวหินจะเยียวยาความเสียหายจากการเรียกเก็บเงินเกิน ขอให้ชี้แจงว่าเบิกจ่ายจากรายได้ส่วนใดของโรงพยาบาล มีบุคคลใดเป็นผู้มีอำนาจลงนามสั่งจ่าย ขอให้นำมาแสดงเป็นหลักฐานเพื่อยืนยันความโปร่งใส สำหรับกรณีที่ให้ตนลงลายมือรับเงินเยียวยาในกระดาษเปล่า ไม่ควรเกิดขึ้นอีกกับผู้ป่วยชาวต่างชาติรายอื่น

Advertisement

“นอกจากนั้น การร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนานกว่า 2 ปี ปัจจุบัน สธ.ยังไม่ชี้แจงข้อเท็จจริงให้ทราบ และก่อนหน้านี้ เคยเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.หัวหิน ปรากฎว่าเจ้าหน้าที่ปฏิเสธไม่รับแจ้ง ให้รอนานกว่า 2 ชั่วโมง พร้อมข่มขู่ผ่านล่ามว่าเป็นชาวต่างชาติไม่สามารถแจ้งความได้ และจะแจ้งตำรวจตรวจคนเข้าเมืองให้จับกุมดำเนินคดีผลักดันออกนอกประเทศ ยอมรับว่าต่อสู้เรื่องนี้มานาน 4 ปี ต้องขี่จักรยานยนต์ไปกลับ อ.หัวหิน ระยะทางกว่า 200 กิโลเมตรทุกสัปดาห์ ต้องไปทวงถามความคืบหน้าที่ศาลากลางจังหวัด ขณะที่ยังมีอาการเจ็บป่วย” นายเออร์วินกล่าว

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image