เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุคนร้ายอุ้มลักพาตัว นายสิงห์แก้ว วงศ์ใหญ่ อายุ 54 ปี ชาว ต.นางแล อ.เมืองเชียงราย และเป็นประธานสมาคมส่งออกสัตว์เชียงแสน อ.เชียงแสน หลังจากเดินทางไปติดต่อธุรกิจที่เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว เมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยมีการข่มขู่เป็นคลิปปืนจ่อศีรษะและข้อความเรียกเงิน 5 ล้านบาท ส่งให้ไปญาติด้วย
ล่าสุด นายประสงค์ หล้าอ่อน นายอำเภอเชียงแสน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงมีการประสานกับทางการเมืองต้นผึ้งอย่างต่อเนื่อง โดยในวันนี้ยังได้มีการเชิญญาติของนายสิงห์แก้ว ประกอบด้วย นางศรีวรรณ วงศ์ใหญ่ ภรรยา อายุ 45 ปี น.ส.รสริน วงศ์ใหญ่ อายุ 27 ปี บุตรสาว และนายประภาส วงศ์ใหญ่ อายุ 22 ปี บุตรชาย ไปยัง อ.เชียงแสน เพื่อจะพาข้ามไปพบหน่วยงานตำรวจของเมืองต้นผึ้ง เพื่อให้ข้อมูลและประสานงานการติดตามค้นหาเพิ่มเติมอีกด้วย
ด้าน พ.ต.อ.เอกณสันต์ ศรีสองเมือง ผกก.สภ.เชียงแสน ได้มอบหมายให้ทางพนักงานสอบสวนและชุดสืบสวนสอบถามข้อมูลจากบรรดาญาติ เพื่อใช้ประกอบการติดตามค้นหา และประสานกับทางประเทศเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม เป็นการสอบปากคำเพื่อความพยายามค้นหาปมของการลักพาตัวครั้งนี้เท่านั้น โดยยังไม่ได้มีการเรียกสอบบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในลักษณะเป็นคดีความเพื่อการดำเนินคดีใดๆ เนื่องจากเป้าหมายหลักในช่วงนี้คือ ความพยายามช่วยเหลือนายสิงห์แก้วให้พ้นจากการถูกลักพาตัวไปฝั่ง สปป.ลาว เสียก่อน รวมทั้งเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ จึงต้องอาศัยการประสานงานผ่านทางคณะกรรมการชายแดน ดังนั้น จึงไม่ได้มีการชี้ชัดลงไปถึงสาเหตุของการลักพาตัวเรียกค่าไถ่ในครั้งนี้แต่อย่างใด
ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า การจะสามารถชี้ชัดลงได้ ต้องได้พบกับตัวนายสิงห์แก้วหรือผู้ที่พอจะทราบเรื่องราวต่างๆ ให้ได้มากกว่านี้ เนื่องจากจากการสอบถามบรรดาญาติทั้งภรรยาและลูกๆ ข้างต้นยังไม่ทราบเรื่องราวเกี่ยวกับธุรกิจของนายสิงห์แก้วอย่างละเอียดมากนัก ส่วนกรณีบุคคลที่เป็นเจ้าของบัญชีธนาคารชื่อว่า นายอนันต์ฉาย อายุ 64 ปี ชาวกรุงเทพฯ ที่คนร้ายข่มขู่ให้ญาติโอนเงินไปให้จำนวน 5 ล้านบาท เพื่อแลกกับตัวนายสิงห์แก้วนั้น เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ได้เรียกตัวมาสอบปากคำแต่อย่างใด เพราะความเร่งด่วนขณะนี้คือการเร่งช่วยเหลือนายสิงห์แก้วและประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้านเป็นหลักก่อน
รายงานข่าวแจ้งว่า นายสิงห์แก้วถูกคนร้ายลักพาตัวหลังจากไปลงทุนด้านการก่อสร้างโรงฆ่าสัตว์ในฝั่ง สปป.ลาว โดยถูกนายจุ๋มและนายเหว่ยซึ่งเป็นนักธุรกิจชาวจีนที่ลงทุนร่วมกันติดต่อให้ข้ามไปหารือเรื่องธุรกิจในฝั่งลาว ทำให้นายสิงห์แก้วเดินทางออกจากจุดผ่านแดนถาวรสามเหลี่ยมทองคำ บ้านสบรวก หมู่ 1 ต.เวียง อ.เชียงแสน ข้ามแม่น้ำโขงไปยังโครงการคิงส์โรมัน เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำที่เป็นแหล่งลงทุนของนักธุรกิจจีนในเมืองต้นผึ้ง เมื่อวันที่ 28 ก.ค. และช่วงบ่ายก็ปรากฎคลิปและข้อความเรียกค่าไถ่ไปถึงโทรศัพท์มือถือของญาติดังกล่าว
