เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากบรรดาผู้ประกอบการเรือลากจูง และเรือบรรทุกสินค้าที่เดินเรือผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้รับความเดือดร้อน ถูกผู้ไม่หวังดีขว้างปาสิ่งของลงมาจากสะพานข้ามแม่น้ำป่าสักและแม่น้ำเจ้าพระยา จนเรือได้รับความเสียหายมาแล้วหลายครั้ง
นางสุกัญญา ทองเชื้อ อายุ 37 ปี ผู้ประกอบการเรือบรรทุกสินค้า กล่าวว่า เมื่อวันที่ 25 ก.ค.62 ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. ขณะที่ตนเองกำลังออกเดินเรือในแม่น้ำป่าสัก ออกจากท่าเรือสินค้าใน อ.นครหลวงจ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อที่จะเดินทางไปรับสินค้าที่เกาะสีชัง ช่วงที่กำลังจะลอดใต้สะพานบ่อโพง พบเห็นวัยรุ่น สวมใส่หมวกกันน็อกเต็มใบ พุ่งเสาธงพร้อมธงที่ประดับอยู่บนสะพานใส่ลงมาในเรือบรรทุกสินค้า จนหลังคาเรือได้รับความเสียหาย ส่วนเสาธงอยู่ในสภาพที่หักออกมา นอกจากนี้ยังปาขวดและแก้วลงมาด้วย โชคดีที่ไม่มีใครอยู่บริเวณที่ธงและขวดตกลงมา หลังเกิดเหตุตนได้ไปสอบถามที่ อบต.บ่อโพง ทราบว่ามีธงหายไปจำนวน 3 ต้น ทาง อบต.คิดว่าว่าลมแรงแล้วเสาธงหัก แจ้งความเอาไว้ที่ สภ.นครหลวง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าจะให้สายตรวจเพิ่มการตรวจบนสะพาน ด้วยเกรงว่าหากต่อไปเราถูกขว้างปาสิ่งของลงมาจากสะพานอีก ซึ่งเป็นช่วงที่เราอยู่บริเวณหัวเรือ-ท้ายเรือ ก็อาจจะได้รับอันตราย บาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยตรวจตราบนสะพานในช่วงเวลากลางคืน
ขณะที่ น.ส.อัญชลี ภู่ทรัพย์ อายุ 26 ปี ผู้ประกอบการเรือลากจูงเรือบรรทุกสินค้า กล่าวว่า เรือบรรทุกสินค้าและเรือกลากจูงที่ต้องล่องเรือไปตาแม่น้ำป่าสักและแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อต้องลอดใต้สะพานบ่อโพง อ.นครหวง และสะพานอโยธยา อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ในช่วงเวลากลางคืน จะถูกขว้างปาสิ่งของ เช่น ก้อนหิน เศษปูน ขวด แก้ว ไม้ กรวยยาง ลงมาจากสะพานใส่เรือบ่อยครั้ง จนเรือได้รับความเสียหาย เรือยนต์ที่ทำหน้าที่ลากจูงเมื่อจะลอดใต้สะพานมองเห็นว่าบนสะพานมีกลุ่มวัยรุ่นจับกลุ่มอยู่บนสะพานจะต้องวิทยุเตือนเรือบรรทุกสินค้าที่ลากมาให้คอยระวังหลบในที่ปลอดภัย ทั้งนี้ ผู้ประกอบการเรือลากจูงโดนกันเป็นประจำ จนต้องคอยมีการเตือนแจ้งไปตามเรือต่างๆ เชื่อว่าคนก่อเหตุน่าจะเกิดจากความคึกคะนองมากกว่า อยากฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเพิ่มความเข้มในการตรวจการรวมกลุ่มของวัยรุ่นที่ชอบไปรวมตัวอยู่บนสะพานอโยธยาในช่วงเวลากลางคืน
