เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 30 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนชาวบ้านจากอำเภอจะนะ และอำเภอเทพา จังหวัดสงขลา ในนามเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น และเครือข่ายเทใจให้เทพา ประมาณ 50 คน เดินทางมายังศาลากลางจังหวัดสงขลา เพื่อยื่นหนังสือสอบถามถึงการดำเนินการโครงการ “เมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต” ภายหลังได้มีการเดินหน้าโครงการนี้ด้วยการเปิดเวทีรับฟังความเห็นขึ้นในพื้นที่ 3 ตำบลริมทะเล ในอำเภอจะนะ ทั้งตำบลสะกอม นาทับ ตลิ่งชัน ทั้งที่มีการประกาศมติคณะรัฐมนตรีให้จะนะเป็นเมืองอุตสาหกรรมมาตั้งแต่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านก่อนแล้ว ทำให้ชาวบ้านมองว่าเป็นการประกาศใช้ก่อนจะมารับฟังความเห็น ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง สร้างความกังวลให้กับชาวบ้านในพื้นที่ทั้ง 4 อำเภอ ที่คาดว่าจะเป็นพื้นที่โครงการ ได้แก่ จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย
จากนั้นในเวลา 11.30 น. นายวีรนันทน์ เพ็งจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้เปิดห้องประชุมบนชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดสงขลาต้อนรับ พร้อมเชิญตัวแทนจากเจ้าท่าส่วนภูมิภาคสงขลา อุตสาหกรรมจังหวัดสงขลา และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสงขลา เข้าหารือร่วมกับตัวแทนชาวบ้าน โดยชาวบ้านได้สะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ โดยไม่ต้องการให้เกิดอุตสาหกรรมหนัก ต้องการให้มีการพัฒนาพื้นที่ตามศักยภาพที่มีอยู่ โดยเฉพาะพื้นที่จะนะถือเป็นแหล่งอาหารสำคัญของจังหวัดสงขลาและอาเซียน อีกทั้งการเปิดเวทีรับฟังความเห็นจะนะเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมนั้น ไม่ได้มีการให้ข้อมูล หรือตอบคำถามประชาชนได้อย่างชัดเจน และมีการล่ารายชื่อชาวบ้าน แลกกับสิ่งของอย่างน้ำตาลทรายและน้ำมันพืช
นายเจะปิ อนันทบริพงษ์ ตัวแทนชาวบ้านในอำเภอจะนะ กล่าวว่า เรื่องของโครงการยักษ์ใหญ่นั้นมองว่าไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ ศอบต.จะผลักดัน เวทีที่เปิดรับฟังนั้นก็เป็นการมาถามชาวบ้านว่าต้องการอะไร ถ้ามีโครงการเกิดขึ้น แต่กลับไม่ได้มีการนำข้อมูลมาชี้แจงก่อน
นายหมีด ชายเต็ม เครือข่ายเทใจให้เทพา กล่าวว่า การขยายผลโครงการเมืองต้นแบบ “สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ไปสู่เมืองต้นแบบที่ 4 อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา “เมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต” ทางเครือข่ายฯมีข้อห่วงกังวลอย่างมาก เนื่องจากแผนการพัฒนาตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว เป็นการพัฒนาที่มุ่งเน้นการลงทุนของภาคเอกชนเป็นสำคัญ พัฒนาโดยไม่มีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ เน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่มีความเสี่ยงต่อผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม สุขภาพ วิถีชีวิตของชุมชน โดยไม่มีการศึกษาประเมินผลกระทบก่อนกำหนดแผนพัฒนาดังกล่าว โดยเฉพาะการมาทำความเข้าใจและกระบวนการมีส่วนร่วมก็มีปัญหาดังที่เสนอมาข้างต้น จึงมีความประสงค์ให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้มีการชี้แจงว่า มติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว ซึ่งมีการอ้างถึงพื้นที่เทพาด้วย มีความเกี่ยวข้องหรือมีแนวทางในการพัฒนาพื้นที่เทพาอย่างไร รวมถึงชี้แจงแผนกระบวนการขั้นตอนทั้งหมดที่จะดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว หน่วยงานไหนเป็นผู้รับผิดชอบในแต่ละกระบวนการขั้นตอน และในปัจจุบันการดำเนินการอยู่ขั้นตอนไหนอย่างไร
ทั้งนี้ ชาวบ้านทั้งสองเครือข่ายเรียกร้องใน 3 ประเด็นคือ ขอให้มีการชี้แจงแผนและกระบวนการขั้นตอนทั้งหมดที่จะดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว หน่วยงานไหนเป็นผู้รับผิดชอบในแต่ละกระบวนการขั้นตอน และในปัจจุบันการดำเนินการอยู่ขั้นตอนไหนอย่างไร, ขอให้มีการยุติการดำเนินในลักษณะดังกล่าว รวมถึงกระบวนการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง จนกว่าจะมีการชี้แจงทำความเข้าใจ และอธิบายถึงสิทธิการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่อย่างชัดเจนก่อน เนื่องจากการดำเนินการดังกล่าวสร้างความขัดแย้งให้แก่คนในชุมชนเป็นอย่างมาก และขอให้มีการชี้แจงข้อสงสัยทั้งหมดนี้เป็นลายลักษณ์อักษรภายใน 7 วัน
ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลากล่าวว่า ได้รับฟังข้อมูลจากปากของชาวบ้านทั้งสองเครือข่าย ทำให้มีข้อมูลเพิ่มมากขึ้น เรื่องที่รับไปก็จะดำเนินการตามขั้นตอน
