ญาติคนขับรถกระบะลากศพตาวัย 85 เข้าพบตร. ลูกชายเศร้า เผยเห็นข่าวตอนแรกไม่คิดว่าเป็นพ่อ

ญาติพี่น้องพาคนขับรถชน ลากศพตาวัย 85 ป่วยอัลไซเมอร์ติดใต้ท้องรถ เข้าตลาดกว่า 40 กม. เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองหนองบัวลำภู

จากเหตุการณ์ของเช้ามืดวันที่ 31 กรกฎาคม ร.ต.ท.แทน นุ่มเจริญ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุศพติดใต้ท้องรถกระบะ ตกอยู่ถนนภายในลานจอดรถส่งผลไม้ ตลาดเมืองทองเจริญศรี ถนนนิตโย เขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี อาสากู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรม รุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบพ่อค้าแม่ค้าในตลาดกำลังมุงดูศพชาย อายุประมาณ 70-80 ปี กองอยู่บนพื้นที่จอดรถภายในตลาด หน้าแผงขายผลไม้ ตุ๊ก-โก้ เมืองทอง สภาพแหลกเหลวไม่สวมเสื้อผ้า มีกางเกงขาสั้นผ้าร่มสีกรมท่าติดอยู่ขาด้านซ้าย ร่างกายส่วนหน้าตั้งแต่หน้าอกถึงเท้าเปิดออก เห็นซี่โครง อวัยวะภายใน ศพซีดไม่มีเลือด ลักษณะถูกลากมาระยะทางไกล เป็นที่สยดสยองแก่ผู้พบเห็น

นอกจากนี้ยังพบร่องรอยกระดูกผู้ตายขูดพื้นคอนกรีตลานจอดรถเป็นทางยาวประมาณ 5 เมตร อาสากู้ภัยนำศพไปเก็บไว้ที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี สอบสวน น.ส.ลลิตวดี คำหลวง อายุ 18 ปี หลานสาวร้านขายผลไม้ ตุ๊ก-โก้ เมืองทอง ผู้พบศพคนแรกให้การว่า ขณะช่วยน้าขายผลไม้อยู่หน้าร้าน ได้มีรถกระบะโตโยต้า วีโก้ แคป สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน จำหมวดอักษรไม่ได้ 8001 อุดรธานี ติดโครงเหล็กด้านหลัง มีสินค้าเกือบเต็มหลังรถมาจอดหน้าร้าน ตนสังเกตเห็นศพติดอยู่ใต้ท้องรถ แต่ยังไม่พูดอะไร

กระทั่งคนขับรถเป็นผู้ชายและผู้หญิง คาดว่าจะเป็นสามี ภรรยากัน เปิดประตูรถเดินลงมา ภรรยาเดินมาเห็นขามนุษย์ถึงกับตกใจหน้าถอดสี รีบเรียกคนขับมาดู ส่วนภรรยารีบเดินหลบหนีไป คนขับรีบวิ่งขึ้นไปขับรถ ถอยหน้าถอยหลัง 3-4 รอบ เพื่อให้ศพหลุดออกมา แต่ศพยังคงติดแน่น คนขับตัดสินใจลงมาดึงศพจึงหลุดออก พอศพหลุดจากท้องรถรีบขับรถหลบหนีไป ตนจึงตะโกนว่า “ศพคน ศพคน” เรียกให้คนมาดู

Advertisement

ร.ต.ท.แทน นุ่มเจริญ พนักงานสอบสวน เปิดเผยว่า ต่อมาเวลา 10.00 น. วันเดียวกันนายชนะ สุขสวาท อายุ 50 ปี มาพบ แจ้งว่าศพที่ถูกรถปิกอัพชนและติดรถมาตกอยู่ที่ตลาดเมืองเจริญศรี เป็นศพพ่อของตน ชื่อนายทอง สุขสวาท อายุ 85 ปี อยู่บ้านเลขที่ 150 หมู่ 1 ต.โนนทัน อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู ซึ่งป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ และกล้ามเนื้ออ่อนแรงมา 5 ปี เดินไม่ได้ ได้แต่กระดึ๊บตัวไป บางครั้งก็คลานไป มีบ้านอยู่ติดกับถนนสายอุดรธานี–หนองบัวลำภู

ก่อนเกิดเหตุ เมื่อคืนนี้ผู้ตายได้นอนอยู่คนเดียว เวลาประมาณ 03.00 น. มีชาวบ้านที่จะไปตลาด ได้ยินเสียงรถชนบางอย่างบริเวณหน้าบ้านตน แต่ไม่ได้สนใจเพราะรีบไปตลาด กระทั่งตื่นเช้า พวกตนไม่เห็นผู้ตายอยู่ในบ้าน จึงออกตามหาตามบ้านญาติแต่ก็ไม่พบ ส่วนบนท้องถนนและริมถนนก็ไม่พบศพ กระทั่งทราบข่าวว่าพบศพติดท้องรถกระบะมาตกอยู่ที่ตลาดเมืองทองเจริญศรี จ.อุดรธานี จึงมาขอดูศพที่ห้องดับจิต จำได้ว่าเป็นศพนายทอง เพราะแม้ร่างกายจะแหลกเหลวแต่ใบหน้ายังปกติ จึงมาติดต่อขอรับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี

ร.ต.ท.แทน นุ่มเจริญ รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี สันนิษฐานว่ารถกระบะขับมาจาก จ.หนองบัวลำภู มาซื้อผักผลไม้ที่ตลาดเมืองทองเจริญศรีไปขาย เมื่อมาถึงบ้านโนนทัน หมู่ 1 ต.โนนทัน อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู ผู้ตายตื่นขึ้นมาตอนดึก และได้คลานออกมาจากบ้าน จนถึงกลางถนน ทำให้รถชนเข้าอย่างจัง ทำให้ศพติดมากับรถ ซึ่งขณะนี้ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชารับทราบ เพื่อประสานตำรวจสืบสวนตามขั้นตอนติดตามรถคันดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ต่อมาเวลา 13.00 น. วันที่ 2 สิงหาคม ที่ สภ.เมืองหนองบัวลำภู จ.หนองบัวลำภู ได้มี นางสาวจิราภา สนิทวงศ์ชัย อายุ 50 ปี พร้อมด้วยญาติพี่น้องและเจ้าหน้าที่บริษัทประกันภัยรถยนต์ ได้เดินทางมาพบกับ พ.ต.ท.พีรศักดิ์ ชัยชนะโชติสิน รักษา ผกก.สภ.เมืองหนองบัวลำภู ร.ต.อ.สุรชาติ ไชยทองรัตน์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองหนองบัวลำภู ว่า

Advertisement

ในช่วงเวลาประมาณ 02.30 น.ของคืนวันที่ 31 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ได้ขับรถยนต์ โตโยต้าวีโก้ สีขาว ทะเบียน ผธ 5672 อุดรธานี มาคนเดียวจากการเดินทางมาเยี่ยมญาติที่หนองบัวลำภู ขณะที่ขับรถกลับบ้านเพียงลำพังคนเดียว ในคืนนั้นได้มีฝนตกลงมาด้วยถนนเปลี่ยวและมืดด้วย แต่จำไม่ได้ว่าเป็นช่วงบริเวณไหน ของถนนหนองบัวลำภู –อุดรธานี ช่วงระหว่างบ้านโนนทัน ต.โนนทัน อ.เมืองหนองบัวลำภู มาถึง อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี นั้นได้มีความรู้สึกเหมือนรถชนอะไรเข้าสักอย่าง แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไร และไม่ได้จอดรถลงมาดู เนื่องจากกลัว เมื่อขับรถกลับไปถึงบ้าน ดูรถพบร่องรอยของการชนด้านหน้ากันชนรถแตก แผ่นป้ายทะเบียนด้านหน้าหลุดหาย จึงได้เล่าให้แฟนฟัง และ ตอนเช้าได้ โทรศัพท์มาให้ พี่สะใภ้และน้องชาย มาดูให้ว่า พบอะไรไหมที่ถนนเหมือนกับว่าตอนขับรถมานั้นชนอะไรสักอย่าง แต่พี่สะใภ้และน้องชาย ก็บอกว่าไม่พบอะไร ตัวเองก็รู้สึกสบายใจขึ้น ต่อมาเพื่อความสบายใจจึงได้พากันเดินทางกลับมายัง บริเวณที่คาดว่าตัวเองได้ชนกับอะไรบ้างอย่างนั้น แต่ก็ไม่พบอะไร ได้เดินทางไปสอบถามยัง โรงพยาบาลหนองบัวลำภู ว่า มีอุบัติเหตุในช่วงกลางคืนที่ผ่านมาหรือไม่ ทางโรงพยาบาลก็บอกว่าไม่มี และตอนเดินทางกลับก็ได้ไปสอบถามที่ โรงพยาบาลหนองวัวซอ จ.อุดรธานี ก็ไม่พบว่ามีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต เช่นกัน

ต่อมาเมื่อคืนนี้ พี่สะใภ้ ได้เห็นแผ่นป้ายทะเบียนรถจากเฟซบุ๊ก ในงานศพ ของ นายทอง สุขสวาท อายุ 85 ปี รู้สึกตกใจมาก จึงได้มาเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองหนองบัวลำภู ซึ่งขณะที่ นางสาวจิราภา สนิทวงศ์ชัย ได้เล่าเหตุการณ์ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจฟัง ก็มีน้ำเสียงสั่นเครือ น้ำตาซึม พร้อมกับยอมรับว่า หากผิดจริงก็พร้อมจะยอมรับจะไปพบญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิต แต่ก็ยังไม่มั่นใจว่าเราชนจริงหรือว่าอย่างไร แต่ถ้าว่ามันจริงก็ยอมรับผิดชอบ ซึ่งหลังจากเกิดเหตุแล้วก็รู้สึกไม่สบายใจมาตลอด เป็นทุกข์ใจมาก

ทางด้าน พ.ต.ท.พีระศักดิ์ ชัยชนะโชติสิน ได้มอบหมายให้ ร.ต.อ.สุรชาติ ไชยทองรัตน์ ร้อยเวร ได้ทำการสอบสวน นางสาวจิราภา สนิทวงศ์ชัย ผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าว เพื่อที่จะได้ประสานงานส่งข้อมูลให้กับ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี เนื่องจาก ทาง สภ.เมืองหนองบัวลำภู นั้นไม่ได้รับแจ้งความจากเจ้าทุกข์ผู้เสียหาย และก่อนหน้านั้น ทางตำรวจอุดรธานี ก็ได้สอบถามว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นหรือไม่ ซึ่งทั้งทางตำรวจและกู้ภัยก็ไม่ได้รับแจ้งอะไรเลย จึงจะได้สอบสวนแล้วติดต่อกับ ทาง ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี อีกครั้งหนึ่ง

ส่วนที่วัดป่าสิริสารวัน บ้านโนนทัน อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู ญาติพี่น้องได้นำศพของ นายทอง สุขสวาท ไปทำการฌาปนกิจ ตามประเพณี ท่ามกลางความเศร้าสลดใจของญาติพี่น้อง ซึ่งมีเพื่อนบ้านจำนวนมากมาร่วมงานศพ โดย นายโลลิต้า สุขสวาท 49 ปี ซึ่งเป็นลูกชายคนเล็ก เล่าว่า พ่อป่วยมีลักษณะหลงๆลืมๆ มานานกว่า 10 ปี แล้ว ซึ่งปกติก็จะไปไหนมาไหนไม่ได้ เวลาจะเคลื่อนย้ายไปไหนก็จะใช้มือค้ำกระเถิบตัวไป แต่ช่วงก่อนเกิดเหตุประมาณ 2-3 วัน พ่อได้ถามถึงเมียบ่อยๆ แต่ก็ไม่กล้าบอกว่า เมียได้เสียชีวิตไปแล้ว เมื่อประมาณ 2 ปี ที่ผ่านมา ไม่กล้าบอกกลัวกระเทือนใจ จึงคิดว่าในคืนเกิดเหตุ ซึ่งก็มีฝนตกนั้น พ่ออาจจะออกมาจากบ้าน ซึ่งในช่วงเช้าก็ได้พยายามตามหากันในพื้นที่ใกล้เคียง ตามหาที่โรงพยาบาลหนองบัวลำภู โรงพยาบาลหนองวัวซอ แต่ก็ไม่พบ เห็นเขาลงเฟซบุ๊ก ว่า มีคนเสียชีวิตอยู่ตลาดอุดรเมืองทอง ก็คิดว่าคงจะไม่ใช่ คิดว่าอย่างไรก็คงจะไม่ไปไกลขนาดนั้น แต่หลังจากหาหมดทุกที่แล้ว ก็เลยมาเปิดดูอีกครั้งหนึ่ง และขยายรูปดู เห็นที่เท้าก็จำได้ว่าเป็นพ่อ เมื่อมารับศพก็จำแทบไม่ได้ รู้สึกสลดหดหู่ใจมาก

ส่วนความโกรธแค้น ต่อเหตุการณ์หรือผู้กระทำนั้น ลูกชายบอกว่า ก็ไม่ถือว่าโกรธ เพราะคิดว่า คนเขาไม่ได้ตั้งใจ หรือจงใจ แต่เมื่อเห็นภาพแล้วเสียใจ สงสาร คิดว่าเขาก็ไม่ได้มาจงใจ ทำร้าย ในคืนนั้นฝนก็ตกด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image