‘อุตตม’ ส่งตัวแทนลงพื้นที่ เกาะเต่า เจรจาถือครองที่ดินระหว่างรัฐ-ประชาชน
เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ส่งคณะทำงานลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีพิพาทปัญหาที่ดินเกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เกาะเต่า ทหารชุดเฉพาะกิจแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนเกี่ยวกับที่ดินทำกินของราษฎรในพื้นที่กองทัพภาคที่4 ฝ่ายปกครองอำเภอเกาะพะงัน เทศบาลตำบลเกาะเต่า กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านเกาะเต่า ร่วมรับฟังบรรยายสรุปปัญหาและข้อพิจารณาภายในศาลาเอนกประสงค์ วัดเกาะเจริญสันติธรรม
จากที่กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง อ้างว่าเกาะเต่าทั้งเกาะเป็นที่ราชพัสดุเนื่องจากเคยเป็นที่ตั้งเรือนจำกักขังนักโทษ(กบฎบวรเดช) สมัยการปกครองของคณะราษฎร์ก่อนปีพ.ศ.2476 กรมราชทัณฑ์นำส่งขึ้นทะเบียนที่ราชพัสดุเมื่อปีพ.ศ.2478 แต่ราษฎรอ้างว่าที่ดินเป็นกรรมสิทธิ์ของราษฎร เพราะบรรพบุรุษเข้ามาบุกเบิกทำสวนทำไร่มาก่อนปีพ.ศ.2480 ที่จะมีเรือนจำมาสร้างทับที่สวนของราษฎรในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เนื้อที่ประมาณ 25 ไร่
เมื่อปีพ.ศ.2498 กระทรวงการคลังแจ้งสิทธิครอบครอง ส.ค.1เกาะเต่าทั้งเกาะตามพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดินพ.ศ.2497 เป็นรายแรกก่อนราษฎร เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ที่ดินไม่รับแจ้ง ส.ค.1จากราษฎรเกาะเต่า จนเมื่อ 20 กว่าปีที่ผ่านมาทางจังหวัดสุราษฎร์ธานีจึงมีประกาศที่ดินเกาะเต่าเป็นที่ราชพัสดุ
ราษฎรได้ทำหนังสือร้องเรียนต่อแม่ทัพภาคที่4 และผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี จากนั้นจังหวัดสุราษฎร์ธานีมีคำสั่งที่4019/2561 ลงวันที่ 27มิถุนายน 2561แต่งตั้งคณะกรรมการร่วมเพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินเกาะเต่า โดยคณะทำงานได้ข้อสรุปว่า
ที่ดินเกาะเต่าไม่มีประกาศหรือพระราชกฤษฎีกา สงวนหวงห้ามให้เป็นที่สาธารณะสมบัติของแผ่นดินตามกฎหมาย, ทะเบียนที่ราชพัสดุแปลงเกาะเต่าไม่ถูกต้อง กรมธนารักษ์ลงรายการในทะเบียนโดยไม่มีหลักฐานได้มาและใช้ประโยชน์ที่ดินเกาะเต่าจากกรมราชทัณฑ์, กรมราชทัณฑ์ไม่ได้ใช้ประโยชน์เกาะเต่าทั้งเกาะเป็นที่กักขังนักโทษ ใช้เฉพาะพื้นที่เรือนจำบริเวณแม่หาด จำนวน 25 ไร่ เท่านั้น, การแจ้งการครอบครองที่ดินแปลงเกาะเต่า(ส.ค.1)ของกระทรวงการคลัง ไม่ก่อให้เกิดสิทธิใด ๆ ตามกฎหมายต่อกระทรวงการคลัง
ชาวบ้านเกาะเต่า บอกว่า ความเป็นจริงแล้วคุกมาสร้างหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ชาวบ้านเข้ามาอยู่ทำมาหากินก่อนสงครามโลก คุกมีเนื้อที่ประมาณ 25 ไร่ แต่กรมธนารักษ์บอกเป็นที่ราชพัสดุทั้งเกาะ ทำให้ชาวบ้านรู้สึกว่าไม่ได้ความยุติธรรมและขาดสิทธิ์ที่จะครอบครองที่ดิน อย่างไรก็ตาม ชาวเกาะเต่ายังมีความหวังว่าที่ดินบนเกาะเต่าชาวบ้านจะต้องมีสิทธิ์ครอบครอง ฝากถึงรัฐบาลเข้ามาแก้ไขปัญหานี้ให้ถูกต้องและเป็นธรรมกับชาวบ้านบนเกาะเต่าทุก ๆ คน
ทางด้าน นายสิระ เจนจาคะ และนายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะตัวแทนคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีพิพาทปัญหาที่ดิน เผยว่า หลังจากลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว จะนำเรื่องนี้เข้าสู่สภาเพื่อพิสูจน์สิทธิ์ของชาวบ้าน เพื่อตัดสินให้ชัดว่าชาวบ้านจะได้สิทธิ์ถือครองที่ดินตรงนี้หรือไม่อย่างไร ถ้าไม่ได้จะมาจบที่เป็นที่ดินของกรมธนารักษ์ชาวบ้านก็ยินดีที่จะเช่าแต่ขอให้มีความชัดเจน
