‘รองนายกพัทยา’ แฉ เหตุคลองเน่า ร้านดังแอบปล่อยน้ำเสีย

​จากกรณีที่มีประชาชนร้องเรียนว่าสภาพน้ำในคลองพัทยาใต้ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังเกิดพายุฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา พบว่าน้ำในคลองมีระดับสูงกว่า 1-2 เมตรแต่เมืองพัทยาไม่สามารถปล่อยระบายลงสู่ทะเลได้เนื่องจากน้ำในคลองมีสภาพสีดำขุ่นข้น สกปรก มีเศษตะกอนไขมันลอยอยู่บนผิวน้ำเป็นจำนวนมาก ส่งกลิ่นเหม็นเน่าสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านในละแวกดังกล่าวเป็นอย่างมาก รวมทั้งยังส่งผลกระทบถึงภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวด้วย

น้ำเน่า-เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม นายพัฒนา บุญสวัสดิ์ รองนายกเมืองพัทยา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และตัวแทนผู้รับเหมาดูแลระบบน้ำเสีย ความสะอาด ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ โดยพบว่าสภาพคลองพัทยาใต้มีปัญหาจริง เนื่องจากน้ำมีลักษณะขุ่นดำและมีตะกอนไขมันลอยเป็นจำนวนมากจนไม่สามารถปล่อยน้ำลงสู่ทะเลได้

​นายพัฒนา เปิดเผยว่า สภาพน้ำในคลองปัจจุบันมีสภาพที่แย่มาก ทั้งดำขุ่นข้น มีตะกอน และมีกลิ่น ทั้งนี้เบื้องต้นได้มอบหมายให้ทางผู้รับเหมานำตาข่ายดักตะกอนมาติดตั้งทั้งต้นทางและปลายน้ำเพื่อดักตะกอนและขยะมูลฝอยที่ลอยมากับน้ำ รวมทั้งเฝ้าระวังการตักเก็บอย่างสม่ำเสมอ ขณะที่น้ำในคลองนั้นได้มอบหมายให้สำนักการช่างสุขาภิบาลทำการสูบน้ำในคลองไปยังสถานี PS1 เพื่อสูบส่งไปที่โรงบำบัดในซอยหนองใหญ่ เนื่องจากสภาพน้ำขณะนี้ไม่สามารถปล่อยลงสู่ทะเลได้ อีกทั้ง ต้องเร่งลดปริมาณน้ำเพราะเข้าสู่หน้ามรสุมหากน้ำยังมีจำนวนมากและมีน้ำไหลบ่ามาเติมลงไปอีกก็จะทำให้ต้องเปิดประตูน้ำ ซึ่งจะทำให้น้ำเสียลงสู่ทะเลจนเกิดความเสียหายได้

Advertisement

“​สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งที่ตรวจพบคือ อาคาพาณิชย์จำนวน 10 กว่าคูหาที่ตั้งอยู่ริมคลอง พบว่าส่วนใหญ่ประกอบกิจการเปิดเป็นร้านอาหาร ซึ่งบริเวณด้านหลังแม้จะเคยมีการกันแนวและมีคำสั่งให้ทำบ่อดักไข มันไปแล้วในอดีต แต่จากที่ตรวจพบว่า เกือบทุกหลังยังคงมีพฤติกรรมไร้จิตสำนึกอย่างมากที่มีการปล่อยน้ำเสียลงสู่คลองสาธารณะโดยตรง ซึ่งถือว่าเป็นการเติมความสกปรกและสร้างความเสียหายต่อแหล่งน้ำธรรม ชาติเป็นอย่างมาก จึงได้มอบหมายให้ผู้เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาตรวจสอบ รวมทั้งเรื่องของผังแนวเขตกรรมสิทธิ์ที่ดินที่หากพบว่ายังมีส่วนที่ลุกล้ำแนวคลองก็จะออกคำสั่งให้ทำการรื้อถอนเพื่อให้เข้าสู่แผนการพัฒนาคลองร่วมกับกรมโยธาธิกาในอนาคต รวมทั้งการใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งในเรื่องของสิ่งแวดล้อม และสาธารณสุข ในการสั่งให้ผู้ประกอบการจัดทำระบบเพื่อป้องกันน้ำเสียและไขมันลงสู่แหล่งน้ำ โดยจะดำเนินการควบคู่ไปกับการพิจารณาออกใบอนุญาตประกอบกิจการร้านอาหารไปด้วย ซึ่งหากพบว่ายังคงไม่ดำเนินการก็จะระงับการออกใบอนุญาตเพื่อลดปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมในระยะยาวต่อไป” ​นายพัฒนา กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image