นอภ.ย่านตาขาว ตรัง ลุยตรวจฟาร์มหมู หลังชาวบ้านร้องเหม็นเน่าน้ำขี้หมูนาน 10 ปี 

เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีมีชาวบ้านในพื้นที่ หมู่ 3 หมู่ 8 ต.ในควน อ.ย่านตาขาว หมู่ 1 ต.บางด้วน อ.ปะเหลียน และ หมู่ 2 ต.ท่าพญา อ.ปะเหลียน จ.ตรัง สำนักสงฆ์ป่าพรหมประทาน โรงเรียน วัดในละแวกใกล้เคียง ร้องเรียนเนื่องจากฟาร์มหมูในพื้นที่กว่า 20 ไร่ เลี้ยงหมูขนาดใหญ่ ประมาณ 4,000-5,000 ตัว โดยที่ฟาร์มหมูแห่งนี้ตั้งอยู่ห่างจากบ้านของชาวบ้านประมาณ 200 เมตร ส่งผลให้ได้รับความเดือดร้อนจากกลิ่นเหม็นเน่าจากน้ำขี้หมูที่ปล่อยลงในลำคลองมานานกว่า 10 ปี

ล่าสุดนายสาธิต ไกรนรา นายอำเภอย่านตาขาว ซึ่งได้รับมอบหมายจาก นายลือชัย เจริญทรัพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง สนธิกำลัง พร้อมด้วย พ.อ.สุริยา ช่วยบำรุง หัวหน้ากลุ่มนโยบายแผนและการข่าว กอ.รมน.ตรัง รวมทั้ง อบต.ในควน เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอ สาธารณสุขอำเภอ ได้เดินทางไปยังฟาร์มเลี้ยงหมูที่ชาวบ้านร้องเรียน

จากการตรวจสอบพบว่า ปัจจุบันฟาร์มแห่งนี้เลี้ยงหมูประมาณ 3,200 ตัว ในระบบปิด ซึ่งถือว่ามีปริมาณลดลงจากเมื่อก่อนที่เคยเลี้ยงถึง 5,000 ตัว ทำให้เห็นคอกที่มีสภาพว่างเปล่าหลายจุด โดยมีคนงานประมาณ 10 คน กำลังให้อาหารหมู และทำความสะอาดคอกหมู ส่วนพื้นที่ด้านหลังมีการสร้างบ่อบำบัดน้ำเสีย จำนวน 5 บ่อ เพื่อให้น้ำเสียที่ผ่านการบำบัดแล้วมีความสะอาดมากที่สุด พร้อมทั้งยังนำขี้หมูมาตากเพื่อทำปุ๋ย ขณะที่ปัญหากลิ่นเหม็นจากการตรวจสอบภายในฟาร์มพบว่า อยู่ในระดับปกติ แต่อาจมีกลิ่นแรงบ้างในบางจุด สำหรับพื้นที่โดยรอบฟาร์มมีบ้านเรือนตั้งอยู่ห่างออกไปพอสมควร และส่วนใหญ่เป็นสวนยางพารา
นายทรงศักดิ์ สังขาว นายกองค์การบริหารส่วนตำบลในควน กล่าวว่า หลังจากที่มีการร้องเรียนทุกครั้ง ตนและเจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่เพื่อหาทางแก้ปัญหามาโดยตลอด รวมทั้งยังมีการประสานไปยังหน่วยงานต่างๆ เช่น ศูนยฺดำรงธรรม กอ.รมน. ให้ลงมาตรวจสอบหลายครั้ง ทั้งนี้ ตามข้อบังคับตำบลของทาง อบต.ระบุว่า จุดที่ตั้งฟาร์มหมูแห่งนี้ อยู่ห่างวัดพรุโต๊ะปุกราษฎร์รังสรรค์ ประมาณ 300 เมตร จึงสามารถเลี้ยงหมูได้แค่ 50-100 ตัวเท่านั้น แต่ฟาร์มแห่งนี้กลับมีการขอประกอบการเลี้ยงหมูถึง 5,200 ตัว ซึ่งผิดไปตามข้อบังคับตำบล ดังนั้น อบต.จึงไม่อาจจะออกใบอนุญาตให้ประกอบกิจการได้ และได้ส่งเรื่องไปให้หน่วยงานระดับสูงเพื่อพิจารณาแล้ว

Advertisement

นายสาธิตกล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบล่าสุดไม่พบปัญหากลิ่นเหม็นและน้ำเสียรุนแรงตามที่มีการร้องเรียน แต่ที่ผ่านมาหน่วยงานทั้งในท้องถิ่นและส่วนกลาง ก็ได้มาดูแลโดยตลอด แต่เนื่องจากไม่มีอำนาจในการสั่งให้ระงับ หรือหยุดการประกอบการเลี้ยงหมู ดังนั้น จึงมีมติที่จะส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการสาธารณสุข จ.ตรัง ตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข พ.ศ.2535 แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 3 พ.ศ.2560 ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธาน และนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด เป็นเลขานุการ ร่วมกับหลายหน่วยงาน โดยทางออกของเรื่องนี้ก็คงเป็นการพูดคุยเจรจา และหาข้อสรุปจากทางจังหวัด เพื่อให้ผู้ประกอบการดำเนินการต่อไป

ขณะที่เจ้าของฟาร์มหมู ชี้แจงว่า ตนเองเลี้ยงหมูตรงบริเวณนี้มาตั้งแต่ปี 2540 เป็นเวลาถึง 22 ปีแล้ว รวมทั้งเข้ามาอยู่ก่อนที่จะมีชุมชนเกิดขึ้นเสียอีก หรือแถวนี้ยังมีสภาพเป็นป่า และยุคนั้นยังไม่มีกฎข้อบังคับอะไรเกิดขึ้นเลย อีกทั้งที่ผ่านมาก็มีหลายหน่วยงาน โดยเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อม ลงมาตรวจสอบฟาร์ม ปรากฏว่าผ่านไปได้ด้วยดีทุกปี ตนจึงสามารถเลี้ยงหมูได้ เพราะทำทุกอย่างถูกต้องตามกระบวนการแล้ว แต่เมื่อไปขอใบอนุญาตประกอบการจากทาง อบต. กลับไม่สามารถให้ได้ และไม่ทราบว่าเพราะอะไร ส่วนข้อบังคับตำบลที่ออกมา ก็เป็นสิ่งที่ยากในทางปฏิบัติ หรือจะให้ตนย้ายฟาร์มไปอยู่ที่ไหน ยังไง ซึ่งล้วนแต่เป็นไปไม่ได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image