เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. วันที่ 12 สิงหาคม ร.ต.อ.สุรชัย ศรีพิมพ์ลาม รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร รับแจ้งเหตุแทงกันตายภายในหอพักแห่งหนึ่งที่ ต.บางกระเจ้า อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่วิทยาการจากกองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดสมุทรสาคร เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สายตรวจหน่วยบริการนิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาคร และเจ้าหน้าที่กู้ภัยศรีสมุทร ของมูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร เหตุเกิดภายในห้องเช่าหนึ่ง พบผู้เสียชีวิตเป็นชายนอนหงายจมกองเลือด ทราบชื่อต่อมาคือ พลทหารสุวัฒน์ นาคทองอินทร์ อายุ 23 ปี ชาว อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี พลทหารสังกัดกองพันทหารช่างที่ 9 กองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ จ.กาญจนบุรี
จากการชันสูตรศพเบื้องต้น พบมีบาดแผลถูกอาวุธมีดแทงเข้าใต้ราวนมด้านซ้ายตัดขั้วหัวใจ 1 แผล นอกจากนี้ยังพบมีดทำครัวปลายแหลม ความยาวประมาณ 1 ไม้บรรทัด ตกอยู่ 1 เล่ม ตำรวจจึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน อีกทั้งยังมีรอยเท้าเปื้อนเลือดเดินออกไปด้วย ส่วนผู้ก่อเหตุทราบต่อมาคือนางสาวอันธิกา ปานดำ อายุ 39 ปี แม่ยายของผู้เสียชีวิต ซึ่งพักอาศัยอยู่ห้องใกล้ๆ กัน และไม่ได้หลบหนีไปไหน แต่เกิดอาการเป็นลม ช็อก นอนนิ่ง ตาลอย
สอบถามนายรุ่งอรุณ ยะยง อายุ 38 ปี พ่อตาของผู้เสียชีวิต เล่าว่า พลทหารสุวัฒน์เป็นสามีของนางสาวแก้วนภา ยะยง อายุ 17 ปี หรือกุ๊ก ซึ่งเป็นลูกสาวของตนกับนางสาวอันธิกา โดยลูกเขยกับลูกสาวเพิ่งจะมีลูกอ่อน คลอดมาได้ราวๆ 3 เดือน และได้เช่าห้องพักอยู่ห้องใกล้ๆ กัน เพราะตนกับภรรยาเป็นห่วงลูกสาวเวลาพลหารสุวัฒน์ต้องกลับไปปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้ ก่อนเกิดเหตุ พลทหารสุวัฒน์ได้นั่งดื่มเหล้ากับพวกเพื่อนๆ บริเวณข้างห้องเช่าตั้งแต่ช่วงเย็น ต่อมาได้กลับมาที่ห้องพัก ซึ่งขณะนั้นตนเองและภรรยาก็อยู่ที่ห้องของลูกสาวด้วยเพราะมาดูมาเล่นกับหลาน โดยพลทหารสุวัฒน์ได้เข้ามาชวนลูกสาวของตนให้ไปกินข้าวด้วยกัน แต่ลูกสาวบอกไม่กิน เพราะกินน้ำเต้าหู้อิ่มแล้ว ตนจึงบอกว่าถ้าจะกินก็กินไปคนเดียว ทำให้ลูกเขยไม่พอใจ จึงนั่งดื่มเบียร์ต่ออีกในห้อง ซึ่งตนเองในฐานะพ่อตาก็ถามไปว่าจะยังกินอีกเหรอ ทำให้ลูกเขยไม่พอใจอีกก็เลยเกิดมีปากเสียงกัน แล้วตนก็ทนไม่ไหว จึงออกปากไล่ให้ออกไปเพราะหลานยังเล็กมาก
“เชื่อว่าคำพูดนั้นเองที่ทำให้ลูกเขยโกรธ ลุกขึ้นไปคว้ามีดทำครัวปลายแหลมมาหนีบไว้ข้างลำตัว ใต้รักแร้ แล้วบอกว่าวันนี้ต้องมีคนตายไปข้างหนึ่ง ซึ่งพอภรรยาของตนกับลูกสาวเห็นดังนั้นก็รีบเข้าไปแย่งจะเอามีดออกมา เพราะกลัวว่าลูกเขยจะทำร้ายตน แต่ในช่วงชุลมุนยื้อแย่งกันไปมา ลูกเขยพลาด มีดเสียบเข้าใต้ราวนมซ้ายตัดขั้วหัวใจตายคาที่” นายรุ่งอรุณกล่าว
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การ โดยจะส่งศพไปยังสถาบันนิติเวช เพื่อตรวจบาดแผลที่แน่ชัด และร่องรอยของการทำร้ายร่างกายอื่นๆ ว่ามีด้วยหรือไม่ พร้อมกันนี้ก็จะได้เชิญตัวผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดไปสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริง และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
