โคราชฝนตกเพิ่มน้ำ 4 เขื่อนใหญ่-23 เขื่อนขนาดกลาง ปริมาตรรวมยังน้อย ไม่ถึง 22 เปอร์เซ็นต์

เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม นายกิติกุล เสภาศีราภรณ์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานนครราชสีมา เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำในห้วงที่ผ่านมา พบว่า อ่างเก็บน้ำลำตะคอง มีน้ำฝนไหลเข้าอ่างเมื่อวานนี้ 0.67 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้ปริมาตรน้ำปัจจุบันอยู่ที่ 133.43 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 42.43 เปอร์เซ็นต์ โดยเป็นน้ำใช้การได้ 110.71 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 37.95 เปอร์เซ็นต์ ส่วน อ่างเก็บน้ำมูลบน เหลือปริมาตรน้ำ 31.96 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 22.67 เปอร์เซ็นต์ เป็นน้ำใช้การได้ 24.96 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 18.63 เปอร์เซ็นต์ อ่างเก็บน้ำลำแชะ เหลือปริมาตรน้ำ 62.38 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 22.69 เปอร์เซ็นต์ เป็นน้ำใช้การได้ 55.38 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 20.67 เปอร์เซ็นต์ และ อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง เหลือปริมาตรน้ำน้อยสุดแค่ 20.50 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 13.23 เปอร์เซ็นต์ เป็นน้ำใช้การได้เพียง 19.78 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 12.82 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

ขณะที่ปริมาตรน้ำคงเหลือในอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 23 แห่งในจังหวัดนครราชสีมา มีปริมาตรน้ำคงเหลือรวม 67.54 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 20.39 เปอร์เซ็นต์ เป็นน้ำใช้การได้ 42.50 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 13.88 เปอร์เซ็นต์ เมื่อรวมปริมาตรน้ำล่าสุด 4 อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ และ 23 อ่างเก็บน้ำขนาดกลางในจังหวัดนครราชสีมา มีปริมาตรน้ำคงเหลือ 315.83 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 25.96 เปอร์เซ็นต์ โดยเป็นน้ำใช้การได้ 253.35 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือเพียง 21.95 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

ทั้งนี้ สถานการณ์ภัยแล้งปัจจุบันของจังหวัดนครราชสีมา พบว่า มีพื้นที่ประสบภัยเพิ่มมากขึ้น โดยมี 16 อำเภอ 33 ตำบล 59 หมู่บ้าน ที่เป็นหมู่บ้านเป้าหมายต้องแจกจ่ายน้ำช่วยเหลือผู้ประสบภัย ได้แก่ อำเภอเมืองนครราชสีมา, คง, โนนสูง, ลำทะเมนชัย, ปักธงชัย, จักราช, ห้วยแถลง, สูงเนิน, สีคิ้ว, พิมาย, ประทาย, ครบุรี, หนองบุญมาก, ด่านขุนทด, ชุมพวง และอำเภอวังน้ำเขียว ขณะที่ข้อมูลการประปาส่วนภูมิภาคที่คาดว่าจะประสบปัญหาขาดแคลนน้ำดิบผลิตประปา มีจำนวน 3 แห่ง ได้แก่ สาขาพิมาย รับผิดชอบอำเภอพิมาย,ห้วยแถลง และอำเภอคง

Advertisement

อย่างไรก็ตาม สภาพปัญหาเกิดจากปริมาณน้ำในลำน้ำมูลลดระดับลง คาดว่าจะสูบได้อีกประมาณ 20-30 วันเท่านั้น อีกทั้งปริมาณน้ำในลำน้ำเค็มมีระดับต่ำกว่าบ่อชักน้ำเดิม และอ่างเก็บน้ำหนองตะไก้ก็แห้งขอดจนหมด ส่วนที่สาขาด่านขุนทด รับผิดชอบอำเภอด่านขุนทด สภาพปัญหาเกิดจากน้ำจากอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนบน ปริมาณน้ำเหลือน้อยมาก ไม่สามารถสูบน้ำดิบโดยตรงได้ และการประปาส่วนภูมิภาค สาขาโนนสูง ซึ่งรับผิดชอบอำเภอโนนสูง พบว่า น้ำในลำน้ำมูลลดลงอย่างรวดเร็ว สามารถสูบน้ำดิบได้อีก 10 วันเท่านั้น สำหรับการประปาอื่น ได้แก่ สาขานครราชสีมา ปากช่อง ครบุรี สีคิ้ว ปักธงชัย โชคชัย และชุมพวง มีแหล่งน้ำดิบสามารถใช้ได้เกินกว่า 100 วัน

นอกจากนี้ สถานการณ์สภาวะฝนแล้ง ปี 2562 ยังส่งผลกระทบด้านเกษตรเป็นวงกว้าง ซึ่งจังหวัดนครราชสีมา มีพื้นที่การเกษตรทั้งหมด 6,415,047 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่ปลูกข้าว 3,564,757 ไร่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 718,094 ไร่ มันสำปะหลัง 1,439,075 ไร่ และอ้อยโรงงาน 693,121 ไร่ เป็นเนื้อที่ปลูกแล้วทั้งหมด 6,415,047 ไร่ แบ่งเป็น พื้นที่ปลูกข้าว 3,271,354 ไร่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 482,668 ไร่ มันสำปะหลัง 1,280,042 ไร่ และอ้อยโรงงาน 693,121 ไร่ คาดว่าจะเสียหายหากฝนทิ้งช่วงต่อไปอีก รวม 2,059,298 ไร่ โดยเป็นพื้นที่ปลูกข้าว 1,595,731 ไร่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 231,284 ไร่ มันสำปะหลัง 42,562 ไร่ และอ้อยโรงงาน 53,100 ไร่

ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้มีการประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ฝนแล้ง ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2562 และดำเนินการชดเชยให้กับเกษตรกรตามมาตรการต่างๆ จังหวัดนครราชสีมา ใน 2 อำเภอ 8 ตำบล 94 หมู่บ้าน มีเกษตรกรได้รับการเยียวยาช่วยเหลือแล้ว 7,020 ราย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image