ความคืบหน้ากรณีคนงานลงไปซ่อมท่อบําบัดนํ้าเสีย ภายในโรงงานแปรรูปนํ้ายางข้นส่งออกต่างประเทศของ บริษัท ทัทวิน จํากัด ใน ต.พังลา อ.สะดา จ.สงขลา และสูดดมก๊าซไข่เน่า หรือก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ จนหมดสติ 4 คน และเสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บสาหัสอีก 1 คน เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุดวันนี้ 14 ส.ค.2562 ที่วัดทุ่งนางแก้ว หมู่ที่5 ตำบลน้ำผุด อำเภอละงูจังหวัดสตูล ครอบครัวและญาติพี่น้องนายสุวิทย์ โจมชู อายุ 37 ปี บุตรชายคนที่สองของครอบครัวซึ่งมีพี่น้องด้วยกันสี่คน ยอมรับกับผู้สื่อข่าวว่า ครอบครัวผู้จากไปมีความลำบากมากหลังสูญเสียเสาหลักของครอบครัว
เนื่องจากนายเอก หรือนายสุวิทย์ โจมชู มีบุตรด้วยกันถึง4 คนวัยเรียน. และวัยกำลังกินและนอน คนโตอายุ16 ปี และคนเล็กสุด 5 ขวบ ไม่รวมภรรยาก็มีอาชีพรับจ้างแม่บ้านเดือน7,000 บาท โดยนายเอก. มีอาชีพรับจ้างทั่วไป รายวันละ300 บาท บางวันได้บ้าง ไม่ได้บ้าง หลังเกิดเหตุเสียชีวิตของนายเอก. ทุกคนอพยพกลับมายังบ้านพ่อแม่นายเอก ที่บ้านทุ่งนางแก้ว ต.น้ำผุด อ.ละงู จ.สตูล
โดยพี่สาว นางสาวเพลินตา จันทวดี อายุ 42 ปี ยอมรับว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ทุกคนในครอบครัวช็อก และไม่คาดฝันว่าจะเกิดเหตุร้ายกับน้อง. หลังเกิดเหตุ วันที่12 ส.ค.62 ที่ผ่านมา. ได้รับการติดต่อจากบริษัทแล้วว่าจะเดินทางมามอบพวงหรีดให้ในวันนี้ ก็คงจะได้ปรึกษาหารือกันในความช่วยเหลือ เนื่องจากครอบครัวของน้องลำบากมากๆ ทุกคนในครอบครัวก็หาเช้ากินค่ำ.
ปกตินิสัยส่วนตัวน้องชาย ชอบช่วยเหลือแม้จะจ้างหรือไม่ก็ชอบช่วยเหลือแรงงานแม้จะไม่ได้ค่าจ้าง ก็หวังว่าทางบริษัทจะช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวที่ยังมีชีวิตอยู่
เพราะขนาดครอบครัวคนที่เสียด้วยกันนัดให้ไปเชิญดวงวิญญาณวันนี้ครอบครัวยังไม่มีเงินจะเหมารถเดินทางไปเลย
ด้านน้องสาวนายสุวิทย์ โจมชู นำรูปถ่ายพี่ชายมาเปิดด้วยความคิดถึงโดยบอกว่าพี่ชายชอบไว้ผมยาวและสวมแว่นตาถ่ายรูปทุกครั้งมาวันนี้ไม่มีพี่ชายแล้วทำให้คิดถึงทุกครั้งที่เข้าไปดูเฟสบุ๊กของพี่ชาย
ขณะที่พ่อคือนายสุชาติ. โจมชู อายุ 62 ปี พ่อนายเอก หรือนายสุวิทย์ โจมชู เหยื่อแก๊สไข่เน่า 1 ใน3 ที่เสียชีวิตในบริษัทผลิตน้ำยางพาราอ.สะเดา ยอมรับว่า. ข่าวการเสียชีวิตของบุตรชาย ที่ไม่มีวันกลับทำให้ตนต้องเป็นเสาหลักให้กับครอบครัวลูก
โดยเมียลูกชายและหลานอีก 4 คนมีเงินติดตัวทั้งครอบครัวเพียง500 บาททำให้พ่อต้องไปหยิบยืมเงินดอก. เบี้ยจัดงานศพให้ลูกชายเป็นครั้งสุดท้าย แม้จะหยิบเงินคนอื่นมาพร้อมดอกเบี้ยก็ต้องทำเพื่อลูกชายเป็นครั้งสุดท้าย ฝากให้คนที่รับผิดชอบในครั้งนี้เห็นใจเพราะครอบครัวตน โดยเฉพาะครอบครัวลูกชายที่จากไปมีความยากลำบากมาก อยากให้ช่วยเหลือหางานให้ลูกสะใภ้ได้ทำเพื่อมีเงินเลี้ยงลูกทั้ง4 คน โดยพ่อแม่และญาติๆทุกคนอยากให้บุตรชายจากไปอย่างสงบ ไม่ต้องห่วงใยคนข้างหลัง
หลังเสร็จเรื่องราวและจะเร่งเข้าไปเชิญดวงวิญญาณลูกกลับบ้านเกิดให้เร็วที่สุด เพื่อบำเพ็ญกุศลตามหลักศาสนา โดยวันเสาร์ที่จะถึงนี้มีกำหนดฌาปนกิจที่วัดทุ่งนางแก้ว หมู่ที่5 ต.น้ำผุด อ.ละงู จ.สตูล
ขณะที่วันนี้นายวีรนันทน์-อัญญาณี เพ็งจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาและภริยา ส่งพวงหรีดแสดงความเสียใจ กับครอบครัวนายเอก หรือสุวิทย์ โจมชูที่วัดทุ่งนางแก้ว
ขณะที่ตัวแทนบริษัท บริษัท ทัทวิน จำกัด ได้เข้ามามอบพวงหรีดและนำเงินสดจำนวน 50,000 บาทมาร่วมทำบุญและพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าทางบริษัทไม่ได้นิ่งเฉย เนื่องจากในช่วงระยะเวลาเกิดเหตุมีหลายหน่วยงานเข้าตรวจสอบที่บริษัทและยืนยันว่า ทางนายเอก หรือสุวิทย์ ไม่ใช่พนักงานของบริษัทฯ แต่เมื่อมาเสียชีวิตภายในบริษัทฯก็ไม่ได้นิ่งเฉยและเดินทางมาเยี่ยมและทำบุญในครั้งนี้ทั้ง 3 ศพใน จ.พัทลุง สตูลและสงขลา รวมทั้งคนที่นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลด้วย ส่วนเรื่องคดีความขอให้เป็นไปตามกฎหมาย ไม่ขอก้าวล่วง
สร้างความอุ่นใจให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตในระดับหนึ่งว่าทางบริษัทไม่ได้นิ่งดูดายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
