จากกรณีที่ทางเทศบาลและตัวแทนชาวบ้านในพื้นที่ ต.ไก่คำ อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ รวมตัวกันร้องไปยังองค์กรต่างๆ และสื่อมวลชน จ.อำนาจเจริญ เกี่ยวกับความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนจากปัญหาขยะล้นเมือง และปล่อยปละละเลยทิ้งเรี่ยราดส่งกลิ่นเหม็นเป็นวงกว้าง ไร้การกำจัดที่ถูกต้องและไม่เอาใจใส่ และยังมีแมลงวันที่เกิดจากบ่อขยะที่ไม่ถูกสุขลักษณะเป็นจำนวนมากนับหลายล้านตัว ออกไปรบกวนชาวบ้านถึงขนาดจะกินข้าวยังต้องกางมุ้ง
นอกจากนี้ ยังมีสุนัขจรจัดกว่า 40-50 ตัว เข้ามาคุ้ยเขี่ยขยะกองมหึมากว่า 4 แสน และไปกัดกินเป็ดไก่สัตว์เลี้ยงของชาวบ้าน ในละแวกนั้น ชาวบ้านหวั่นเกิดโรคระบาดสัตว์เลี้ยงล้มตาย และยังกระทบกิจการโรงแรม รีสอร์ต และร้านอาหารใกล้ๆ บริเวณบ่อขยะ ที่ลงทุนเป็นเงินนับล้านต้องปิดกิจการลง เพราะผลพวงจากบ่อขยะแห่งนี้ ซึ่งไม่มีหน่วยงานไหนลงมาแก้ไขให้เป็นรูปธรรมและจริงจัง ถ่ายโอนมาจากเทศบาลเมืองอำนาจเจริญมาเป็นองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เพียงไม่กี่เดือน ถ่ายโอนจาก อบจ.มายังเทศบาลไก่คำกับบ่อขยะล้นเมืองแห่งนี้
ล่าสุดนางสมหญิง บัวบุตร ส.ส.อำนาจเจริญ พรรคเพื่อไทย เขต 1 จ.อำนาจเจริญ ได้รับร้องเรียนนำคณะลงพื้นที่ตรวจสอบผลว่า กองขยะมหึมากว่า 50 แสนตัน ไม่มีการกำจัดที่ถูกวิธี ตนจะนำเรื่องเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร และหารือกับประธานสภา นายชวน หลีกภัย และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อหาทางแก้ไข เนื่องจากเป็นปัญหาที่มักหมมมานานหลายสิบปี และการกำจัดก็ทำไม่ถูกแบบ เช่น การฝังกลบไม่มีการห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติกเลย ซึ่งก็เป็นวิธีที่ไม่ถูกต้องจากการสอบถามผู้รู้ เป็นเหตุให้ขยะเหล่านี้พอกพูนมากเป็นเวลาช้านานยากแก่การแก้ไขและที่สำคัญขาดเงินงบประมาณที่จะลงมาดำเนินการขยะเหล่านี้ให้ถูกสุขลักษณะ ส่งกลิ่นเหม็นและไม่มีการควบคุมทั้งทางน้ำและทางใต้ดิน หวั่นเกิดโรคระบาดร้ายแรงแก่สัตว์และคนในอนาคตอันใกล้นี้ โดยเฉพาะในช่วงนี้อยู่ในช่วงหน้าฝนมีฝนตกลงมาส่งกลิ่นเหม็นเพิ่มขึ้นเป็น 2-3 เท่าตัวของหน้าแล้ง เกรงว่าจะเกิดการระบาดของโรคต่างๆ จากกองขยะมหึมาแห่งนี้ จึงจะต้องหาทางแก้ไขก่อนจะสายเกินแก้
นายวิชิต บุตรชา นายกเทศมนตรีตำบลไก่คำ ต.บุ่ง อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ ที่อยู่ติดกับบ่อขยะและรับผืดชอบล่าสุด เผยว่า วันนี้ตนได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่เทศบาลและผู้นำชุมชนที่เกี่ยวข้องและช่วยเหลือในการกำจัดบ่อขยะให้ถูกต้อง พร้อมหาแนวทางแก้ไข ที่มีชาวบ้านร้องทุกข์จากผลกระทบกลิ่นเหม็นจากบ่อขยะมา จากการที่ทางเทศบาลได้รับการถ่ายโอนมาจาก อบจ. แรกๆ ตนคิดว่าจะมีงบประมาณมาให้ทางเทศบาลไก่คำดำเนินการแต่ก็ไม่มี เทศบาลไก่คำพึ่งได้รับการถ่ายโอนมาเพียงไม่กี่เดือนเองและปัญหาขยะนับวันจะเพิ่มทวีมากขึ้นเนื่องจากมีหน่วยงานต่างๆ อบต.ต่างๆ หมู่บ้านต่างๆ นำขยะมาเทแต่ละวันเป็นจำนวนมากใน 20 ตำบลมีขยะเพิ่มขึ้นวันละ 40-50 ตัน และล่าสุดไม่มีการฝังกลบเลยและเทขยะเรี่ยราดแม้บนถนนการสัญจรเข้าออกอีกด้วย
“ซึ่งงบประมาณของเทศบาลไก่คำซึ่งเป็นเทศบาลเล็กๆ ไม่เพียงพอในการจะดำเนินการ การกำจัดขยะแห่งนี้ให้เกิดเป็นรูปธรรมได้ และจะต้องใช้เงินงบประมาณกว่า 200 ล้านบาท นำมาใช้ในการบำบัดและขนถ่ายขยะจึงจะเพียงพอ และจากอดีตที่มีการกำจัดขยะแบบมักง่ายไม่มีการห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติกประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้ละแวกนั้นเสี่ยงต่อโรคระบาด อีกอย่างรถที่จะออกไปเก็บขยะในตัวเมืองมาเทที่กองขยะก็ไม่เพียงพอ บางจุดตนได้รับร้องทุกข์จากประชาชนมาว่า รถขนขยะไม่มีออกไปเก็บขยะในหมู่บ้านในชุมชนของตนเองเลย ทิ้งไว้เป็นเวลานานจึงไปเก็บทำให้ขยะเหล่านั้นส่งกลิ่นเหม็นไปทั่ว
ที่สำคัญคิดว่าสงสารชาวบ้านเถอะครับโดยเฉพาะในละแวกใกล้ๆ บ่อขยะต่างหวาดระแวงโรคภัยไข้เจ็บซึ่งมีบางชุมชนได้รับแล้วในช่วงนี้แต่ยังไม่มากเท่าไร ในอนาคตต้องระบาดมากขึ้น ต้องรีบแก้ไขก่อนที่จะสายเกินแก้” นายวิชิตกล่าว
