(คลิป)วินาทีนำซาก ‘มาเรียม’ แช่เย็น ผ่าพิสูจน์โดย ‘หมอหนิ่ง’ ท่ามกลางความเศร้า!

เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม จากที่ทางเพจกรม ทช.ได้โพสต์ข้อความถึงการจากไปของมาเรียมพะยูนน้อย ซึ่งทีมแพทย์พบว่าน้องมาเรียมหยุดหายใจและไม่เจอชีพจร จึงรีบนำขึ้นจากน้ำรอบแรก กระตุ้นหายใจ พบมีการตอบสนอง ตายังตอบสนอง จึงเอาลงบ่อ จากนั้นตรวจชีพจรซ้ำ แต่ไม่เจอชีพจรอีก จึงฉีดยาช่วยชีวิต และเอาขึ้นจากบ่อรอบที่ 2 จนมาเรียมพะยูนน้อยจากไปอย่างสงบ

เมื่อเวลา 02.00 น.ที่บริเวณท่าเรือหาดเจ้าไหม ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าหมู่เกาะลิบง ทีมสัตวแพทย์กว่า 10 คน ร่วมกันนำซากมาเรียมพะยูนน้อยขึ้นฝั่ง โดยได้นำซากมาเรียมพะยูนน้อยแช่เย็นไว้ในกระบะ และนำขึ้นรถกระบะเดินทางมายังพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง เพื่อทำการผ่าพิสูจน์ซากมาเรียมพะยูนน้อย นำโดยรศ.สพญ.ดร.นันทริกา ชันซื่อ หรือหมอหนิ่ง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำทีมสัตวแพทย์กรม ทช.ร่วม 10 คน ลงมือผ่าซากพะยูนมาเรียม เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป ส่วนผลการผ่าพิสูจน์ต้องทางทีมสัตวแพทย์ตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดอีกครั้ง ทั้งนี้พะยูนน้อยมาเรียม เพศเมีย มีอายุ 9 เดือน น้ำหนัก 26 กิโลกรัม ความยาว 122 เซนติเมตร


นายชัยพฤกษ์ วีระวงศ์ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง กล่าวว่า ตั้งแต่มาเรียมมาอยู่ที่เกาะลิบงวันที่ 29 เมษายน จนถึงวันนี้ (17 ส.ค.) รวมแล้วก็เป็นเวลา 111 วันพอดี ก่อนอื่นก็ต้องขอขอบคุณทุกแรงใจและขอบคุณเจ้าหน้าที่สัตวแพทย์ทุกสถาบันเจ้าหน้าที่ของกรม ทช. ที่พี่น้องชาวบ้านเกาะลิบง พี่น้องจังหวัดตรัง และพี่น้องที่ให้กำลังใจทั่วประเทศ สำหรับมาเรียมที่มาอยู่ก็ดูแลมาเรียมเป็นอย่างดีจนเกิดอาการป่วย ณ วันนี้ก็ไม่สามารถที่จะช่วยมาเรียมไว้ได้ ซึ่งก็ได้ทำจนสุดความสามารถแล้ว เริ่มป่วยมาประมาณสัก 4-5 วัน จนมาเรียมร่างกายอ่อนแอลงไม่กินอาหาร ทางสัตวแพทย์ก็ให้สารอาหารไปทางสารอาหารเหลวและก็ประคองตัวเองได้อยู่ระยะหนึ่งจนถึงเมื่อประมาณ 5 ทุ่ม มาเรียมเกิดสภาวะช็อกทางทีมสัตวแพทย์ได้ทำการพยาบาลด้วยการปั๊มหัวใจและให้สารอาหารประมาณครึ่ง ชม. ก็ไม่สามารถที่จะช่วยชีวิตของมาเรียมได้ก็ได้จากเราไปสักห้าทุ่มครึ่ง

Advertisement

“จากที่มาเรียมมาอยู่ตรงนี้เหตุการณ์นี้ทำให้เห็นว่ามนุษย์ได้มีเมตตาและก็มาช่วยชีวิตสัตว์ตัวน้อยกำพร้าแม่ ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ซึ่งเขาก็ให้ความร่วมมือกับเราอย่างดีเหมือนเป็นการรับรู้กันสื่อสารกันได้ในเรื่องของประสาทสัมผัสระหว่างมนุษย์กับสัตว์ ซึ่งเราได้นำเขามาเลี้ยงโดยธรรมชาติอาจจะเป็นครั้งแรกของประเทศหรือของโลกที่เลี้ยงสัตว์พะยูนด้วยระบบเปิด ทำให้เห็นว่าเรื่องของการอนุรักษ์ในอนาคตมองว่าเป็นแนวทางทิศทางที่ดีขึ้นเยอะ โดยจิตใจของคนทั่วประเทศโดยเฉพาะคนที่ติดตามทางโซเชียลได้ติดตามมาเรียมเยอะมาก น้องมาเรียมน่ารักและอยู่กับมนุษย์อย่างเสมือนเป็นแม่ทำให้เห็นถึงความน่ารักของสัตว์โลกที่ร่วมกับพวกเราทำให้กระแสอนุรักษ์การอนุรักษ์พะยูนของโลกทำให้เกิดเป็นกระแสอนุรักษ์ที่ดีให้สามารถอยู่ในโลกของเราได้อย่างปกติสุข โดยที่ชาวบ้านจะมีผลพลอยได้และเอื้อประโยชน์ด้วยกันทางด้านท่องเที่ยว เศรษฐกิจสังคม พะยูนก็สามารถอยู่อย่างสงบหาอาหารเลี้ยงลูกออกลูกออกหลาน สามารถอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์กับสัตว์โลกได้ จะทำให้ทิศทางในการอนุรักษ์ส่งผลชัดเจนขึ้นและยั่งยืนสู่อนาคตต่อไป” นายชัยพฤกษ์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image