‘ศรีสุวรรณ’ ค้านถมทะเลแหลมฉบัง 3 พันไร่ ส่อเอื้อประโยชน์บริษัทปิโตรเคมีข้ามชาติ

เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยว่า ขณะนี้สมาคมได้ออกแถลงการณ์คัดค้านการถมทะเลส่อเอื้อประโยชน์ให้เอ็กซอน โมบิล ตามที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัท เอ็กซอน โมบิล คอร์ปอเรชั่น ได้ยื่นข้อเสนอในการลงทุนก่อสร้างท่าเรือ-โรงงานปิโตรเคมี มูลค่า 3.3 แสนล้านบาท มีเงื่อนไขภาครัฐจะต้องจัดหาพื้นที่ให้ได้ในรัศมี 5 กิโลเมตร (กม.) จากโรงกลั่นเอสโซ่แหลมฉบังโดยการนิคมอุตสาหกรรม (กนอ.) มีแผนที่จะถมทะเลในพื้นที่แหลมฉบังเพื่อรองรับ 1-3 พันไร่นั้น

แถลงการณ์ระบุว่า การถมทะเลเพื่อประกอบการท่าเรือ โรงงานปิโตรเคมี เป็นเพียงอุตสาหกรรมผลิตเม็ดพลาสติกในอุตสาหกรรมต้นน้ำ ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการลงทุนใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษ ตามนโยบายของ EEC ที่ต้องการให้เกิดอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการสร้างนวัตกรรม หรือการถ่ายทอดเทคโนโลยี จึงขัดหรือแย้งต่อ พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ.2561 โดยตรง

นายศรีสุวรรณกล่าวว่า การถมทะเลดังกล่าวจะก่อให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงกับระบบนิเวศของทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รวมทั้งผลกระทบต่อวิถีทางการประมงพื้นบ้านและการท่องเที่ยวของชุมชนในบริเวณทะเลแหลมฉบัง อ่าวอุดม เกาะสีชัง ซึ่งสังคมไทยมีบทเรียนที่เจ็บปวดในการถมทะเลที่มาบตาพุดแล้ว และอาจส่อให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติตามมา เพราะท่าเรือสามารถปรับใช้เป็นฐานยิงขีปนาวุธได้ และเป็นฐานสอดแนมข่าวกรองสารสนเทศในพื้นที่ ถ้าเป็นเช่นนั้นพื้นที่นี้ก็จะกลายเป็น พื้นที่ยุทธศาสตร์ทางทหาร ที่มีขอบเขตตลอดทั้งอ่าวไทยและทะเลจีนใต้รวมถึงฝั่งทะเลภาคใต้ทั้งหมดด้วย รัฐบาลจะต้องศึกษาให้ดีด้วย เพราะอาจกลายเป็นการชักศึกเข้าบ้านที่อันตรายที่สุด

“การถมทะเลเพื่อเอื้อประโยชน์ให้บริษัทต่างชาติ อาจเข้าข่ายการละเมิดสิทธิการจัดการ บำรุงรักษา และการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมและความหลากหลายทางชีวภาพอย่างสมดุลและยั่งยืนตามกฎหมายไทย ขัดมาตรา 43(2) ประกอบ มาตรา 50(2) (8) โดยชัดแจ้ง นอกจากนั้นถือว่าเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติว่าด้วยหน้าที่ของรัฐ ตามมาตรา 52 มาตรา 53 มาตรา 57 และมาตรา 58 รัฐธรรมนูญ 2560 หากรัฐบาลเดินหน้าผลักดันการถมทะเลเพื่อตอบสนองทุนจากต่างชาติดังกล่าว ประชาชนคนไทยทุกคนก็สามารถใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 41(3) ฟ้องร้องต่อศาลเพื่อระงับการใช้อำนาจได้ทันที ดังนั้นรัฐบาลควรล้มเลิกการกระทำที่เสี่ยงต่อความมั่นคงและการสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ไม่เช่นนั้นคงต้องไปจบที่ศาล” นายศรีสุวรรณกล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image