เอ็นจีโอเดินหน้ายื่นหนังสือยูเอ็น ร้องปราบอิทธิพลและคุ้มครอง เอกชัย อิสระทะ

เอ็นจีโอเดินหน้ายื่นหนังสือปราบอิทธิพลและคุ้มครอง เอกชัย อิสระทะ นักปกป้องสิทธิมนุษยชนด้านสิ่งแวดล้อม หลังถูกอุ้มในเวทีรับฟังความเห็นขอประทานบัตรเหมืองหิน

รายงานข่าวจากจังหวัดสงขลาเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 สิงหาคมนี้ ที่สำนักงานองค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ตัวแทนคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้ หรือ กป.อพช.ใต้ นำโดยนายเอกชัย อิสระทะ เลขาธิการคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนและเลขาธิการคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้ นายบรรจง นะแส ที่ปรึกษา กป.อพช.ใต้ เดินทางไปยื่นหนังสือต่อผู้แทนประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งองค์การสหประชาชาติ (UNOHCHR) เรื่องขอให้ท่านร่วมหามาตรการในการคุ้มครองอย่างเร่งด่วนรวมถึงการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการคุ้มครองกรณีเอกชัย อิสระทะ นักปกป้องสิทธิมนุษยชนด้านสิ่งแวดล้อมและสิทธิชุมชน

โดยหนังสือดังกล่าวมีใจความระบุว่า เนื่องด้วยเมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุการณ์ข่มขู่คุกคามต่อผม นายเอกชัย อิสระทะ โดยตำแหน่งเป็นเลขาธิการคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนและเลขาธิการคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้ ซึ่งได้เดินทางเข้าร่วมสังเกตการณ์การจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชนของสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดพัทลุง เพื่อประกอบการพิจารณาคำขอประทานบัตรโครงการเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูน (เพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง) ของบริษัท สิงห์ศิลาทอง จำกัด แต่เมื่อเดินทางไปถึงบริเวณที่จัดงานได้ถูกชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งขัดขวางห้ามไม่ให้เข้าร่วมเวทีพร้อมทั้งทำการยึดโทรศัพท์มือถือ รถยนต์ และถ่ายรูปบัตรประจำตัวประชาชนไว้ด้วย จากนั้นชายกลุ่มดังกล่าวได้บังคับควบคุมตัวผมขึ้นไปเอารถยนต์ไปกักขังไว้ ณ สถานที่แห่งหนึ่งจนกระทั่งในช่วงเย็นวันเดียวกันจึงได้ปล่อยตัวออกมา โดยข่มขู่ห้ามไม่ให้แจ้งความดำเนินคดีและห้ามผมไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับโครงการทำเหมืองหินนี้อีกต่อไป มิเช่นนั้นจะไม่รับรองความปลอดภัยของผมและครอบครัว ซึ่งขณะนี้ได้ทำการแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จังหวัดสงขลาและยังไม่มีการจับกุมผู้กระทำผิด

หนังสือดังกล่าวระบุอีกว่า ผมและครอบครัวอยู่ภายใต้ความหวาดกลัวว่าการคุกคามจะลุกลามต่อชีวิตและทรัพย์สิน มีการดำเนินการข่มขู่เพื่อกดดันให้ผมและเครือข่ายองค์กรฯยุติเคลื่อนไหวคัดค้านประทานบัตรโครงการเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูน (เพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้าง) ดังกล่าว ทั้งนี้ อย่างที่ท่านทราบว่าในพื้นที่ภาคใต้นั้นกรณีการลักลอบสังหารและคุกคามนักปกป้องสิทธิมนุษยชนนั้นเกี่ยวข้องกับกระบวนการอิทธิพลที่ยากที่จะมีกระบวนการยุติธรรมสามารถเอาผิดกับใครได้ ผมจึงขอเรียนมายังท่านเพื่อขอให้ประสานงานอย่างเร่งด่วน โดยขอให้ท่านร่วมหามาตรการในการคุ้มครองอย่างเร่งด่วน รวมถึงประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการคุ้มครอง เช่น ขอให้ท่านประสานงานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อให้มั่นใจว่าการไปให้ปากคำชี้ตัวผู้ถูกกล่าวหาและกระบวนการชั้นตำรวจอัยการและศาลจะมีการคำนึงถึงความปลอดภัย และขอให้ท่านติดตามอย่างต่อเนื่องในกระบวนการยุติธรรมเพื่อให้แน่ใจว่าผู้กระทำผิดไม่ลอยนวลพ้นผิดและถูกนำตัวมาลงโทษ 2 ขอให้ท่านประสานงานกับกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง หามาตรการในการคุ้มครองกระผมและนักปกป้องสิทธิมนุษยชนคนอื่นในพื้นที่ 3 ขอให้ท่านประสานงานกับกระทรวงยุติธรรมเพื่อให้ผมเข้าถึงการคุ้มครองต่างๆ เช่นการคุ้มครองพยานที่ผมสามารถร่วมออกแบบเพื่อความปลอดภัยของผมและครอบครัว และหามาตรการในการคุ้มครองกับผม ครอบครัว และนักปกป้องสิทธิมนุษยชนคนอื่นในพื้นที่ 4 ขอให้ท่านประสานงานกับสถานทูตต่างๆ เพื่อร่วมหามาตรการในการคุ้มครองกระผม ครอบครัว และนักปกป้องสิทธิมนุษยชนคนอื่นในพื้นที่ และ 5 ขอให้ท่านประสานงานกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเพื่อร่วมหามาตรการในการคุ้มครองกระผม ครอบครัว และนักปกป้องสิทธิมนุษยชนคนอื่นในพื้นที่

Advertisement

นายบรรจง นะแส ที่ปรึกษา กป.อพช.ใต้ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นถือ เป็นปรากฏการณ์ที่ด้อยพัฒนา ซึ่งไม่สามารถจะสร้างธรรมาภิบาลที่เราต้องการสร้างสังคมให้ไปข้างหน้าได้อย่างโปร่งใส หลายโครงการใหญ่ รัฐอยู่ฝ่ายโครงการผู้รับเหมาตลอด ถ้าวันหนึ่งถ้าประชาชนไม่เชื่อในกลไกรัฐ ก็ถือเป็นเรื่องที่น่ากังวล ในกรณีนี้นั้นรัฐจะต้องมีมาตรการที่ชัดเจน โดยเฉพาะในเรื่องของการปราบปรามผู้มีอิทธิพล

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image