กะเพราะแพง– ภายหลังผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Ambie Na Ranong ได้โพสต์หลังจากไปสั่งกะเพราไข่ดาวที่ร้านแห่งหนึ่งในจังหวัดมหาสารคาม ที่หน้าร้านมีป้ายกะเพราถาด จึงได้สั่งกลับบ้าน โดยใช้เวลารอกระเพราไข่ดาวนานกว่า 20 นาทีถึงจะได้ แต่ยิ่งกว่านั้นราคาที่แม่ค้าแจ้งคือ ราคากะเพราะไข่ดาวอยู่ที่ 99 บาท ซึ่งผู้ใช้เฟซบุ๊กคนนี้บอกว่าถึงกับงง สตั๊นไป 1 วินาที แล้วถามกลับว่าราคาเท่าไหร่ แม่ค้าก็บอกมาว่า 99 บาท เธอจึงจ่ายเงิน แล้วขึ้นรถไปเปิดกล่องดู ก็พบว่าปริมาณไม่ได้แตกต่างไปจากข้าวกระเพราราคาปกติที่ 35-40 บาท จึงได้นำเรื่องราวโพสต์ลงเฟซบุ๊ก กระทั่งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคมเป็นวงกว้าง ส่วนใหญ่ที่มาแสดงความคิดเห็นก็บอกว่า เป็นราคาที่แพงเกินไปไม่ ไม่สมเหตุสมผล
ล่าสุด เธอได้โพสต์เฟซบุ๊กถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ว่า “ไม่อยากให้เป็นดราม่า ไม่อยากประจานร้าน ไม่อยากให้ทางร้านเสื่อมเสียชื่อเสียง และตนเองก็ไม่ได้อยากดัง จึงไม่ได้แจ้งพิกัดของทางร้าน แต่ความที่ตนเองถือเป็นผู้บริโภค รู้สึกว่าทางร้านเอาเปรียบผู้บริโภค แถมไม่อร่อย ทั้งเผ็ดและเค็ม อีกทั้ง เข้าร้านนี้เป็นครั้งแรก และไม่อยากตัดสินใครแค่กะเพราจานเดียว”
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 21 สิงหาคม นางจันทร์เพ็ญ ศักดิวงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วย นายเจนณรงค์ ศรีอินทร์ พาณิชย์จังหวัดมหาสารคาม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กโพสต์ข้อความระบุว่า สั่งกระเพราถาดราคา 89 บาท เพิ่มไข่ดาว 10 บาท รวม 99 บาทใส่กล่องกลับบ้าน แต่พอเปิดกล่องออกมา พบว่าเป็นข้าวกะเพราธรรมดา ซึ่งเธอรู้สึกว่าราคากับปริมาณไม่สัมพันธ์กัน จึงได้โพสต์เรื่องราวลงบนเฟซบุ๊ก เพื่อระบายความในใจลงไป จากนั้นก็มีผู้มาแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้าง
นายเจนณรงค์ ศรีอินทร์ พาณิชย์จังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ภายหลังจากการลงพื้นที่มีการพูดคุยกับเจ้าของร้านก็ทราบว่า เรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริง แต่ทางร้านและเจ้าของโพสต์ได้มีการพูดคุยทำความเข้าใจกันแล้ว ว่าเป็นการเข้าใจผิดกันระหว่างแม่ครัวคนทำกับข้าวกับแคชเชียร์ที่คิดราคาผิด โดยข้าวกะเพราไข่ดาวที่เป็นครัวทำ ทำในราคา 69 บาท บวกไข่ดาว 10 บาท รวม 79 บาท แต่แคชเชียร์ไปคิดราคาเป็นกระเพราถาด 89 บาท รวมไข่ดาวอีก 10 บาท เป็น 99 บาท ซึ่งทางเจ้าของร้านและทางผู้โพสต์ได้มีการคุยกันและปรับความเข้าใจกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นายเจนณรงค์ กล่าวว่า ในส่วนของพาณิชย์จังหวัดมหาสารคาม ที่ลงพื้นที่มาตรวจสอบในวันนี้พบว่า ทางร้านได้มีการปรับลดราคาอาหาร ซึ่งทางร้านแจ้งว่าได้มีการปรับมาสักพักหนึ่งแล้ว จะมีเมนูเก่าและเมนูใหม่ โดยเมนูเก่าจะเป็นเมนูกะเพราถาดที่มีราคา 89 บาท แต่เมนูใหม่เป็นเมนูกะเพราธรรมดาที่มีราคา 69 บาท โดยทางร้านมีป้ายแสดงราคาที่ชัดเจน ตรวจสอบแล้วทางร้านไม่ได้มีเจตนาที่จะเอาเปรียบผู้บริโภค ซึ่งได้มีการตักเตือนไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางร้านก็ยอมรับ และพร้อมจะปรับปรุง ซึ่งเรื่องแบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้ แต่อาจจะไม่เป็นข่าว แต่พอมีข่าวเกิดขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ก็ต้องตรวจสอบ
“แต่ทั้งนี้อยากฝากเตือนผู้ประกอบการ ในเรื่องของการปิดป้ายแสดงราคา ควรมีป้ายแสดงราคาอย่างชัดเจนให้ผู้บริโภคสามารถตัดสินใจซื้อได้ หากมีข้อร้องเรียนและทางพาณิชย์จังหวัดลงไปตรวจสอบแล้วพบว่ามีการขายสินค้าสูงกว่าความเป็นจริง อาจถูกเปรียบเทียบปรับเป็นเงินถึง 10,000 บาทได้” นายเจนณรงค์ กล่าว
