เกิดเหตุสลดใจ ดาบตำรวจคิดสั้น คว้าปืนพกกระหน่ำยิงเมียต่อหน้าลูก ก่อนยิงตัวตายตาม ลูกชายเผยพูดคุยอยู่ดีๆ คว้าปืนยิงไม่มีสาเหตุ
เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 21 สิงหาคม พ.ต.ต.กิตติกร ภูคำสอน สารวัตรเวร สภ.ท่าไม้รวก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี รับแจ้งมีผู้ถูกยิงเสียชีวิตภายในบ้าน ต.ท่าไม้รวก อ.ท่ายาง จำนวน 2 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 1 ราย จึงรายงานให้ พ.ต.อ.สมเดช ฐิตวัฒนสกุล พ.ต.อ.บัญญัติ เพียรสวัสดิ์ รอง ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี พ.ต.อ.ภีมพล ศรุตานันทะ ผกก.สภ.ท่าไม้รวก ทราบ พร้อมประสานแพทย์เวร รพ.ท่ายาง เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างสรรเพชญธรรมสถานฯ รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุบริเวณประตูหน้าบ้านพบร่าง นางอารี ทับเปลี่ยน อายุ 40 ปี สวมเสื้อเชิ้ตเเขนยาว นุ่งกางเกงยีนส์ขาสั้น นั่งเสียชีวิตอยู่ แพทย์ชันสูตรพบ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. ที่แขนซ้าย-ขวา และลำตัว 12 แผล ที่นอกบ้านพบปลอกกระสุนขนาด 9 มม. จำนวน 7 ปลอก และหัวกระสุนปืนขนาดเดียวกันจำนวน 2 หัว บริเวณข้างประตูภายในบ้าน ซึ่งห่างไปประมาณ 2 เมตร พบร่าง ด.ต.อำนาจ รานบัว อายุ 50 ปี ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.คลองวาฬ ช่วยราชการเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่บริเวณกลางศีรษะด้านบน 1 แผล ข้างศพพบอาวุธปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ ตรวจสอบพบกระสุนคาอยู่ในรังเพลิงจำนวน 1 นัด ใกล้เคียงภายในบ้านพบปลอกกระสุนขนาดเดียวกันตกอยู่จำนวน 2 ปลอก หัวกระสุนปืน 1 หัว
นอกจากนี้ มีผู้บาดเจ็บอีก 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือนางอำนวย บุญเต็ม อายุ 49 ปี ซึ่งเป็นน้องสาวของ ด.ต.อำนาจ ถูกยิงเข้าที่บริเวณสะโพกขวา จำนวน 1 แผล ญาตินำตัวส่งรักษาที่ รพ.ท่ายาง อาการปลอดภัย
สอบถาม นายอรรถนพ รานบัว อายุ 17 ปี ลูกชายผู้ตาย เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนพร้อมกับ ด.ต.อำนาจผู้เป็นพ่อ และนางอารีผู้เป็นแม่ และน้องชายอีก 1 คน ได้เดินทางมาจาก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อมาถึงบ้านที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านของพ่อ พ่อบ่นว่าปวดขาและได้ให้นางอำนวยบีบนวดขาให้ โดยมีตนและแม่นั่งคุยกันอยู่ด้านหน้าประตู จู่ๆ พ่อได้ชักอาวุธปืนออกมากระหน่ำ ยิงใส่แม่จำนวนหลายนัดจนแน่นิ่ง โดยนางอำนวยซึ่งนั่งอยู่ระหว่างกลางได้ถูกลูกหลงบาดเจ็บ และวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากญาติซึ่งอยู่บ้านใกล้เคียง เมื่อตนหันมาทางพ่อก็พบว่าพ่อใช้ปืนจ่อศีรษะตัวเองอยู่ ตนพยายามเข้าไปห้ามแต่ไม่ทัน ตนไม่ทราบว่าเหตุใดพ่อจึงได้ก่อเหตุดังกล่าว เนื่องจากที่ผ่านมาพ่อไม่ได้บ่นหรือเล่าอะไรให้ตนฟัง และก่อนก่อเหตุพ่อกับแม่ก็ไม่ได้ทะเลาะมีปากเสียงกันแต่อย่างใด
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าสาเหตุอาจจะมาจากความเครียดเรื่องส่วนตัว ซึ่งจะต้องสอบปากคำญาติและเพื่อนที่ใกล้ชิดอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
