หนุ่มกู้ภัยโคราชสุดงง ได้รับใบสั่งให้เสียค่าปรับรถมอเตอร์ไซค์ ทั้งที่ไม่เคยขับขี่ออกนอกพื้นที่ และโรงพักเจ้าของใบสั่ง อยู่ห่างจากบ้านนับร้อยกิโลเมตร เบื้องต้นต้องนำรถไปตรวจสอบซ้ำเพราะข้อมูลรถคนละสี เกรงมิจฉาชีพสวมทะเบียนไปทำผิด
เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศุภชัย บุตรแสน เจ้าของร้านจำหน่ายสังฆภัณฑ์ตุ๋ยหีบศพประทาย และเป็นหัวหน้าหน่วยกู้ภัย ฮุก 31 จุดประทาย จังหวัดนครราชสีมา ได้นำใบเตือนให้ชำระค่าปรับมาโชว์ให้กับผู้สื่อข่าวดู โดยเป็นใบเตือนจาก สภ.จอหอ ให้นายศุภชัยเข้าไปชำระค่าปรับจากใบสั่งเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2562 เวลา 09.52 น. ในข้อหานำรถที่มีเครื่องยนต์หรือเครื่องอุปกรณ์หรือส่วนควบไม่ครบถ้วน มาใช้ในทางเดินรถ ซึ่งตามเอกสารมีเลขที่ใบสั่ง พร้อมข้อมูลของรถครบถ้วน แต่ที่แตกต่างคือสีของตัวรถในใบสั่งเป็นสีดำ ส่วนตัวรถตามเอกสารคู่มือการจดทะเบียนเป็นสีดำ ขาวและชมพู ซึ่งสีที่เห็นเป็นส่วนใหญ่ตามที่จำหน่ายคือ สีชมพู
โดยนายศุภชัยได้ชี้แจงว่า รถจักรยานยนต์หมายเลขทะเบียนดังกล่าวเป็นของตนเองจริง ซื้อไว้ให้ภรรยาใช้รับส่งลูกไปโรงเรียนเท่านั้น ไม่เคยแต่งซิ่งหรือถอดอุปกรณ์ของรถออกเลย ทุกชิ้นส่วนเป็นของเดิมจากโรงงานทั้งสิ้น และที่ผ่านมา ไม่เคยขับไปไหนไกลนอกเขตอำเภอ เนื่องจากมีรถยนต์ส่วนตัว 3-4 คัน จึงไม่มีความจำเป็นต้องใช้รถจักรยานยนต์เดินทางไกลๆ ส่วนกรณีมีใบสั่งให้ไปชำระค่าปรับ ตนก็รู้สึกงงว่า มีได้อย่างไร เนื่องจากสถานีตำรวจที่ออกใบสั่งอยู่ห่างจากบ้านนับร้อยกิโลเมตร
จึงได้นำเรื่องเข้าปรึกษาที่ สภ.ประทาย ซึ่งตำรวจในท้องที่ได้แนะนำให้แจ้งความไว้ก่อน เพื่อป้องกันการถูกแอบอ้างหรือสวมทะเบียนเพื่อนำไปก่อเหตุจากผู้ไม่หวังดี รวมถึงได้มีการประสานไปยัง สภ.จอหอ ที่ออกใบสั่งดังกล่าว ก็ได้รับการชี้แจงว่า ให้นำรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวเข้าไปตรวจสอบความถูกต้อง ซึ่งตนก็ขอผ่อนผันเนื่องจากติดภารกิจ ถ้าหากไปในช่วงนี้จะทำให้สูญเสียรายได้เป็นจำนวนมาก จึงอยากฝากเตือนภัยถ้าหากใครจะโพสต์รูปภาพรถในโลกออนไลน์ ก็ควรจะปิดบังหมายเลขทะเบียนเพื่อป้องกันมิจฉาชีพนำไปใช้ประโยชน์ ถึงแม้กรณีนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเกิดความผิดพลาดในขั้นตอนใด แต่เพื่อเป็นการไม่ประมาท ควรป้องกันไว้จะดีกว่า
