เมื่อเวลา 04.00 น.วันที่ 23 ส.ค.62 พ.ต.ท.สมบูรณ์ ขอบโครกกรวด สารวัตรสอบสวน สภ.คลองห้า ได้รับแจ้งเหตุมีรถเทรลเลอร์ชนรถที่จอดติดไฟแดงและเกิดเพลิงลุกไหม้ มีผู้เสียชีวิตติดอยู่ภายในรถ 2 ศพ เหตุเกิดบริเวณถนนธัญบุรี-วังน้อย (แยกไฟแดงวัดใจ) มุ่งหน้าธัญบุรี ม.5 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จึงไปที่เกิดเหตุด้วยรถดับเพลิง อบต.คลองเจ็ดจำนวน 2 คันและเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุพบชนกันจำนวน 3 คัน 1.รถพ่วงบรรทุกน้ำตาลยี่ห้อฮีโน่หมายเลขทะเบียน 70-1455 ร้อยเอ็ด หมายเลขทะเบียนตัวพ่วง 70-1454 ร้อยเอ็ด 2.รถสิบล้อยี่ห้ออีซูซุสีน้ำเงิน ทะเบียน 87-6297 นครปฐม ซึ่งบรรทุกไก่มาจำนวน 3,000 ตัว 3.รถเทรลเลอร์บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ไม่ทราบยี่ห้อหมายเลขทะเบียนตัวพ่วง61-0731 กรุงเทพมหานคร ชนอยู่กับรถบรรทุกไก่จนเกิดเพลิงลุกไหม้เจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยกันใช้น้ำฉีดเพื่อดับไฟแต่ทำได้ยากเพราะในตู้คอนเทนเนอร์บรรทุกยางพารามาเต็มคันรถ เพลิงได้ลุกไหม้อย่างรุนแรง ทำให้ไก่ได้ถูกไฟลุกไหม้ตายไปกว่าครึ่งคันรถ เมื่อไฟดับลงที่เบาะคนขับและที่นั่งข้างคนขับภายในรถเทรลเลอร์บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์พบผู้เสียชีวิต 2 รายเป็นผู้หญิง 1 รายและผู้ชาย 1 ราย ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถตรวจสอบเอกสารของผู้เสียชีวิตได้
สอบถามนายศิริพงษ์ มะลิมาตร์ อายุ 52 ปี คนขับรถบรรทุกไก่ เบื้องต้นให้การว่าตนเองบรรทุกไก่จำนวน 3,000 ตัว จากอำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิและจะนำไปส่งจังหวัดชลบุรี เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุรถคันหน้าได้จอดติดไฟแดงอยู่ ตนเองก็จอดต่อท้ายพร้อมกับแตะไฟเบรกหลายครั้งเพื่อเตือนรถคันหลัง เป็นจังหวะ ที่รถรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ยางพาราพุ่งชนอัดท้ายเข้าอย่างจังจนเป็นเหตุให้มีเพลิงลุกไหม้ ตนเองกระโดดลงจากรถหนีทำให้ไก่ที่บรรทุกมาประมาณ 3,000 ตัว ได้ถูกไฟคลอกไฟประมาณพันกว่าตัว และพบผู้เสียชีวิตอยู่รถรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ตอนแรกก็ยังมีเสียงร้องขอความช่วยเหลือ จนกระทั่งไฟลุกไหม้และคลอกคนขับกับคนนั่งข้างเสียชีวิต
ด้านพ.ต.ท.สมบูรณ์ ขอบโคกกรวด สารวัตรเวรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรคลองห้า และเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบในที่เกิดเหตุ ร่วมชันสูตรพลิกศพพร้อมกับแพทย์เวร และบันทึกภาพเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยได้เชิญตัวผู้ขับขี่รถบรรทุกไก่กับรถสิบล้อไปสอบสวนที่ สภ.คลองห้าพร้อมทั้งจะได้ประสานบริษัทของรถเทรลเลอร์เพื่อจะตรวจสอบชื่อผู้เสียชีวิตทั้งสองคนอีกครั้ง ส่วนผู้เสียชีวิตได้ให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งนำส่งนิติเวชโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ
