ผู้ว่าฯตรัง ลุยตั้งทีมวิจัยพะยูน ชงเข้าแผนพัฒนาจังหวัด เผยพร้อมผลักดันสู่เวทีประชุมพะยูนโลก

นที่ 24 สิงหาคม นายลือชัย เจริญทรัพย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวถึงแนวทางการป้องกันแก้ไขปัญหาพะยูนตาย และการอนุรักษ์พะยูนในจังหวัดตรัง หลังพบพะยูนตายอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้ในจังหวัดตรังพบพะยูนตายแล้วรวม 9 ตัวว่า ขณะนี้ได้เชิญตัวแทนคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มาพูดคุยถึงแนวทางในการปรับยุทธศาสตร์ด้านพะยูน โดยได้คุยกันเป็นการเบื้องต้นแล้ว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการทำข้อเสนอว่าจะต้องจัดในรูปแบบอย่างไร  แต่เป็นลักษณะเน้นงานวิชาการที่จับต้องได้ โดยเฉพาะงานวิจัยที่มีอยู่กับปราชญ์ชุมชนต้องคุยกันให้ชัดเจนถือเป็นการทำงานวิจัย เพื่อนำมาเข้าแผนยุทธศาสตร์จังหวัดเรื่องพะยูน

นายลือชัย กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาแผนยุทธศาสตร์มีประมาณ 200 หน้า ไม่เคยมีเรื่องพะยูน  ตนเองจึงต้องผลักดันให้เกิด ภายใต้กรอบคำว่า พะยูนคืออะไร ต้นทาง กลางทาง ปลายทางคืออะไร  เพราะเรามีการท่องเที่ยวหากส่งเสริมไปดูพะยูนจะต้องไปดูได้แค่ไหน ต้องคุยกันหมดทุกมิติ ทั้งนี้ จะมีการประชุมศึกษาแผนร่วมกันในเดือนหน้า ขณะนี้ให้ทางมหาวิทยาลัยไปเขียนข้อเสนอมา ประกอบกับก่อนหน้านี้ได้พูดคุยกันกับอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งว่าในปีหน้าจะมีการประชุมภาคีเครือข่ายพะยูนโลกที่จังหวัดตรังในห้วงประมาณเดือนมีนาคม  พฤษภาคม โดยจังหวัดตรังมีความพร้อมในการอำนวยความสะดวก  ทั้งที่พักที่จัดประชุม ส่วนตัวอยากให้เป็นการประชุมเชิงปฏิบัติการสามารถไปดูงานในพื้นที่ได้ด้วย จะทำให้บรรยากาศในการประชุมมีความสมบูรณ์ทางวิชาการมากขึ้น  ซึ่งทางจังหวัดจะต้องจัดทำแผนยุทธศาสตร์พัฒนาจังหวัดด้านพะยูนให้สอดรับกับแผนวาระพะยูนแห่งชาติของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม  ซึ่งจะต้องสอดรับและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน แต่ขณะนี้ทางจังหวัดจะเร่งทำแผนพัฒนาจังหวัดตรังก่อน

“ที่ผ่านมาเราพูดถึงแต่เรื่องการอนุรักษ์สัตว์ทะเลหายาก  แต่ไม่มีเรื่องตัวพะยูน เพราะพะยูนเป็นอัตลักษณ์ของจังหวัดตรัง ส่วนสัตว์อื่นๆ เช่น เต่ามะเฟือง โลมา ก็สามารถใส่ได้ แต่ขณะนี้จะมุ่งเน้นไปที่เรื่องของพะยูนให้ชัดเจน แต่จะนำแนวทางข้อมูลจากปราชญ์ชาวบ้านรวมด้วย  ส่วนแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าลดปัญหาการตายของพะยูน ได้คุยกันชัดเจนแล้วกับอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม และเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบงว่า ต้องเข้มงวดกวดขันเป็นพิเศษโดยเฉพาะคนนอกที่เข้ามาในชุมชน เข้ามาในเขตพื้นที่ จะต้องถือปฏิบัติตามมติครม.ปี 2561 อย่างเคร่งครัด  และการให้ชุมชนมีส่วนร่วมและเป็นหลักในการตรวจตรา ทั้งเฝ้าระวังพื้นที่  การร่วมกันรักษาสิ่งแวดล้อม และการเก็บกำจัดขยะชุมชนไม่ให้มีอีกต่อไป” นายลือชัย กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image