เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม นางรอยพิมพ์ อิสรพงศ์พันธ์ เจ้าของกิจการหอพัก 3 แห่ง ในย่านการศึกษาทั้ง มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ไม่มีปัญหาเลย แม้ว่าจำนวนนักศึกษาจะน้อยลงก็ตาม แต่เนื่องจาก จ.เชียงใหม่ เป็นเมืองเศรษฐกิจและเมืองท่องเที่ยว ทำให้มีคนในวัยทำงานมากกว่าจำนวนนักศึกษา ห้องพักทุกแห่งจึงเต็มหมด เช่น จุดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ก็จะมีห้างสรรพสินค้ารายล้อม ส่วนบริเวณมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ หอพักของเราใกล้มหาวิทยาลัยและย่านธุรกิจ ร้านอาหาร ก็จะมีคนเข้าอยู่จำนวนมากไม่เคยขาดหรือลดลง ในขณะที่มหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น ก็ใกล้ห้างสรรพสินค้าและสถานที่ทำงานทั้งของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ดังนั้นทุกที่เลยไม่มีปัญหาเรื่องคนเช่าเลย แต่เราไม่เน้นให้นักท่องเที่ยวเขาพักแบบรายวัน แต่เราเน้นการให้เช่ารายเดือนมากกว่า
“ส่วนอนาคตจะมีปัญหาหรือไม่คงตอบยาก เพราะช่วงนี้เศรษฐกิจค่อนข้างแย่ เราก็ต้องปรับปรุงห้องพักและบรรยากาศให้ดี ราคารับได้ไม่แพงเกินไปเฉลี่ยห้องพัดลม 2,000 บาท ห้องแอร์คอนดิชั่นก็ 3,000-3,500 บาท ค่าน้ำ 100 บาทต่อห้อง ค่าไฟเราก็คิดไม่แพง 6-7 บาทต่อยูนิตเท่านั้น ทำให้ไม่มีปัญหา เน้นเห็นใจกันมากกว่า” นางรอยพิมพ์ กล่าว
ขณะที่ น.ส.ฐิติวรดา เนียมเปีย นักศึกษาปี 1 คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า หอในมหาวิทยาลัยมีน้อยต้องจองหอนอกพักอาศัย ซึ่งหายากมาก เพราะคนจองกันเยอะตั้งแต่ก่อนเปิดเทอม จับทำสัญญา 6 เดือนถึง 1 ปี บางแห่งก็ต้องจ่ายค่าประกันห้องและค่าเช่าเดือนสุดท้ายไว้ล่วงหน้าเช่นกัน หอพักที่ตนเองพักอยู่หลังมหาวิทยาลัยมีทั้งหมด 4 ชั้น ทุกห้องเต็มหมด ราคา 4,500 บาทต่อห้องก็ต้องแบ่งเช่าอยู่กับเพื่อน
นางณัฐพร สานสุวรรณ ผู้ปกครองนักศึกษาปี 1 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า หอพักของมหาวิทยาลัยจะมีน้อยไม่เพียงพอต่อความต้องการของนักศึกษา เพราะจำนวนนักศึกษาคณะแพทย์มีมากถึง 200 คน ไม่ได้ลดลงเลย ส่วนคณะสื่อสารมวลชนก็ยังเพิ่มขึ้นจากเดิม 80 คน เป็น 300 คนในปีนี้ จึงคิดว่าน่าจะเป็นบางคณะเท่านั้นที่จำนวนนักศึกษาลดลง เด็กสมัยใหม่ไม่ค่อยชอบอยู่หอในมหาวิทยาลัยเพราะขาดสิ่งอำนวยความสะดวก และรอบมหาวิทยาลัยมีห้องพักที่ทันสมัยกว่า มีลักษณะคล้ายคอนโดมิเนียมคือ ห้องชุดราคา 6,300 บาทต่อห้อง แต่ข้างในมีแยกเป็น 2 ห้อง มีบริการไวไฟ ฟิสเนส สระว่ายน้ำ สะดวกสบายและพักกับเพื่อนได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มหาวิทยาลัยที่อาจจะมีปัญหาในเรื่องจำนวนนักศึกษาน่าจะเป็นมหาวิทยาลัยเอกชน แต่ก็ปรับรูปแบบไปเป็นการเรียนการสอนในระดับปริญญาโท เพื่อเพิ่มวิทยฐานะ ทำให้ไม่มีปัญหาหากนักศึกษาปกติจะมีจำนวนน้อยลง
