จากกรณีสภ.นาทวีได้รับแจ้งเหตุคนร้ายปล้นทรัพย์ห้างทองสุธาดาซึ่งตั้งอยู่ย่านตลาดเทศบาลตำบลนาทวี อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา โดยคนร้ายมีจำนวน 5 คนทุกคนมีอาวุธครบมือใช้รถตู้สีขาวแถบฟ้าเหลืองเป็นยานพาหนะ เข้าก่อเหตุอย่างอุกอาจ โดยขณะเกิดเหตุนั้นมีพนักของร้านจำนวน 3 คน และ เจ้าของร้าน 1 คน อยู่ภายในร้าน คนร้ายได้ลงมาจากลงตู้ ใช้อาวุธปืนยาวและปืนพกสั้นเข้าประกบพนักงานและเจ้าของร้านแบบตัวต่อตัว ส่วนอีกคนทำหน้าที่กวาดทองรูปพรรณภายในร้านไปเกือบทั้งหมด ก่อนจะหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
พ.ต.อ.เสกสรร ชูรังสฤษฏ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดสงขลา พร้อมชุดสืบสวน สภ.นาทวี ลงพื้นที่ตรวจสอบและเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ ซึ่งพบว่า คนร้ายได้ทุบทำลายฮาร์ดิสท์เก็บข้อมูลกล้องวงจรปิดก่อนหลบหนี จากกรสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า คนร้ายส่วนหนึ่งแต่งกายอำพรางโดยใส่ชุดคล้ายสตรีมุสลิม ปิดบังใบหน้า อีกส่วนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดลายพราง โดยในที่เกิดเหตุนั้นเจ้าหน้าที่ได้กันเป็นสถานที่ห้ามเข้า เพื่อเก็บหลักฐานอย่างละเอียด โดยมีประชาชนเข้าสังเกตการณ์จำนวนมาก สำหรับร้านทองในย่านการค้าเมืองนาทวีนั้น มีอยู่จำนวนหลายแห่ง แต่คาดว่าที่คนร้ายเลือกร้านนี้เนื่องจากมีทองรูปพรรณอยู่ในร้าน วางจำหน่ายจำนวนมาก
หลังเกิดเหตุนั้นกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลาได้สั่งการให้พื้นที่อำเภอรอยต่อ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้รวมถึงพื้นที่ข้างเคียงตั้งจุดตรวจจุดสกัดทั้งเส้นทางสายหลักและสายรองเพื่อสกัดจับคนร้ายส่วนย่านการค้ากลางเมืองทั้ง 16 อำเภอนั้นได้กำชับให้เพิ่มมาตรการเข้มงวดในการป้องกันการก่อเหตุกับร้านทองในทุกพื้นที่
ล่าสุดพลตำรวจตรีปรีดา เปี่ยมวารี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา เดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมสั่งการให้ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสงขลาเข้าร่วมคลี่คลายคดีนี้อย่างเร่งด่วนเบื้องต้น ได้มอบหมายให้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตลอดเส้นทาง โดยเฉพาะในย่านตลาดนาทวีซึ่งจะมีกล้องวงจรปิดติดตั้งเป็นส่วนใหญ่ พร้อมสั่งการให้สกัดกั้นเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้รถนี้โดยเฉพาะเส้นทางสายรองและตรวจสอบรถตู้อย่างละเอียดทุกคัน
โดยมีรายงานว่า เมื่อรถตู้จอด ได้มีคนร้ายที่มีลักษณะคล้ายผู้หญิงเดินเข้าไปก่อน จากนั้น คนร้ายอีก 4 คน ได้ตามเข้าไป ก่อนจะลงมือก่อเหตุ
ทั้งนี้มีรายงานว่าหลังเกิดเหตุคนร้ายได้ทุบทำลายฮาร์ดดิสก์เก็บข้อมูลภาพจากกล้องวงจรปิดภายในร้าน ก่อนหลบหนีไป โดยรถที่ใช้เป็นรถที่ก่อเหตุโจรกรรมมาจากอำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี โดยคาดว่าน่าจะมีการจอดทิ้งเอาไว้ตามเส้นทางและเปลี่ยนไปใช้รถอื่นในการหลบหนี
ทั้งนี้สำหรับมูลค่าทองรูปพรรณที่คนร้ายได้ไปในครั้งนี้ คาดว่ามีมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท น้ำหนักทอง 2,500-2,700 บาท นอกจากทองรูปพรรณที่โชว์อยู่หน้าร้านแล้ว ทองรูปพรรณที่ลูกค้าจำนำอยู่ก็ถูกกวาดไปทั้งหมด โดยเจ้าของร้านอยู่ระหว่างการตรวจสอบมูลค่าที่แท้จริง สำหรับห้างทองแห่งนี้นั้นถือเป็นห้างทองรายใหญ่ เปิดอยู่ 3 สาขา ในอำเภอนาทวี และมีทองรูปพรรณโชว์ในร้านมากกว่าร้านอื่น ๆ จึงน่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ตกเป็นเป้าหมายในการก่อเหตุ
เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบปากคำพนักงานของร้านจำนวน 3 คน รวมถึง เจ้าของร้าน โดยก่อนหน้านี้ทราบว่า มีพนักงานของร้านรายหนึ่งได้ลาออกไป ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้เชิญตัวมาสอบปากคำว่ามีส่วนพัวพันกับคดีปล้นทองครั้งใหญ่นี้หรือไม่
นายเริงชัย วิริยะกุล ประธานชมรมร้านค้าทอง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา กล่าวว่า ร้านทองที่อำเภอนาทวีที่ถูกปล้นนั้น ไม่ได้เป็นสมาชิกร้านค้าทอง แต่อย่างใด ทำให้ไม่รู้จักเจ้าของร้าน และไม่ได้สอบถามว่าทองที่ถูกปล้นไปนั้นมีมูลค่าเท่าไหร่ อย่างไร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่คงจะต้องมีการตรวจสอบบัญชีของร้านทอง ซึ่งจะมีอยู่ทุกวัน ว่าร้านมีทองโชว์หน้าร้านเท่าไหร่ มีในตู้เซฟเท่าไหร่ ทองจำนำ เท่าไหร่ ทางร้านคงตรวจสอบได้ไม่ยาก โโยบางแห่งนั้นหากถูกกวาดไปหมดทั้งร้าน ก็อาจจะเป็นไปได้ที่มูลค่า จะสูง 50 ล้าน หรืออาจจะบวก หรือ ลบ จากจำนวนนี้ ขึ้นอยู่กับว่าการจัดวางทองที่โชว์เป็นเส้นเล็ก หรือ เส้นใหญ่ จัดเรียงแบบถี่หรือห่าง ทำให้ประเมินได้ยาก คงต้องรอให้ทางร้านยืนยัน
