โคราชฝนตก เพิ่มปริมาณน้ำใน 4 เขื่อนใหญ่ 23 เขื่อนขนาดกลางเล็กน้อย ภาพรวมยังน่าเป็นห่วง ชลประทานเกรงไม่เพียงพอใช้ตลอดหน้าแล้งที่จะถึง ล่าสุด เขื่อนลำแชะได้งดส่งน้ำเพื่อการเกษตรแล้ว หลังเหลือน้ำไม่ถึง 22 เปอร์เซ็นต์
เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม นายกิติกุล เสภาศีราภรณ์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานนครราชสีมา เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำใน 4 อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ของจังหวัดนครราชสีมา ได้แก่อ่างเก็บน้ำลำตะคอง, ลำพระเพลิง, ลำแชะ และอ่างเก็บน้ำลำมูลบน ล่าสุด มีน้ำฝนไหลเข้าอ่าง เมื่อวานนี้ รวม 5 แสนลูกบาศก์เมตร ทำให้มีปริมาตรน้ำกักเก็บรวมอยู่ที่ 239.16 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 27.01% ของความจุทั้งหมด โดยเป็นน้ำใช้การได้ 201.72 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 23.79% ซึ่งอ่างเก็บน้ำลำตะคอง มีปริมาตรน้ำเหลือมากสุด อยู่ที่ 141.10 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 44.87 % เป็นน้ำใช้การได้ 118.38 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 40.58% ส่วนอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง เหลือปริมาตรน้ำน้อยสุด เพียง 16.96 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 10.95% และเป็นน้ำใช้การได้ 16.24 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 10.53% เท่านั้น ขณะที่อ่างเก็บน้ำลำแชะ มีปริมาตรน้ำเหลืออยู่ที่ 51.57 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 18.76% เป็นน้ำใช้การได้ 44.57 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 16.63% และอ่างเก็บน้ำลำมูลบน มีปริมาตรน้ำเหลืออยู่ที่ 29.51 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 20.93% เป็นน้ำใช้การได้ 22.51 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 16.80%
ส่วนปริมาตรน้ำคงเหลือในอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 23 แห่งในจังหวัดนครราชสีมา มีปริมาตรน้ำคงเหลือรวม 64.81 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 19.57% เป็นน้ำใช้การได้ 39.77 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 12.99% เมื่อรวมปริมาตรน้ำล่าสุด 4 อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ และ 23 อ่างเก็บน้ำขนาดกลางในจังหวัดนครราชสีมา มีปริมาตรน้ำคงเหลือ 303.97 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 24.98% โดยเป็นน้ำใช้การได้ 241.49 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือเพียง 20.92% เท่านั้น
ทั้งนี้ ในส่วนของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำแชะ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ได้ปรับแผนงดส่งน้ำจากเขื่อนลำแชะแล้ว หลังจากฝนทิ้งช่วงยาวนานทำให้ไม่มีน้ำไหลงสู่เขื่อนมานานหลายเดือน ประกอบกับต้องแบกรับภารการส่งน้ำให้กับพื้นที่การเกษตรกว่า 8 หมื่นไร่มาโดยตลอด ซึ่งขณะนี้ทางเขื่อนได้หยุดการส่งน้ำเพื่อการเกษตรเป็นการชั่วคราว เนื่องจากทางเขื่อนจำเป็นต้องสงวนน้ำที่เหลือเอาไว้ใช้วางแผนการจัดสรรน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคในช่วงที่เหลือของปีนี้และฤดูแล้งปีหน้า
โดยล่าสุด มีการปรับแผนการส่งน้ำเพื่อกักตุนน้ำเอาไว้สำหรับการอุปโภคบริโภคเป็นหลัก ขณะเดียวกันที่ผ่านมา ทางเขื่อนก็ได้ทำการส่งน้ำให้กับพื้นที่การเกษตรจนเต็มพื้นที่ ทำให้เกษตรกรมีน้ำใช้อย่างพอเพียงไปอีกห้วงระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งหากมีฝนตกลงมาต่อเนื่องและมีปริมาณน้ำเพียงพอ ทางเขื่อนก็จะพิจารณาปรับแผนการส่งน้ำเพื่อการเกษตรอย่างเหมาะสมอีกครั้ง
