เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 27 สิงหาคม นายศุภชัย เขียวไพร อายุ 40 ปี ชาว จ.พิษณุโลก เข้าร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ข่าวสด ว่าภรรยาของตนชื่อนางบุปผา จำปาศรี หรือผา อายุ 37 ปี ได้หายออกไปจากหอพักพัตรพิมล ภายใน ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ลำพูน พร้อมรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 125 เอ็กซ์ สีดำ ทะเบียน (จำหมวดอักษรไม่ได้) 113 พิษณุโลก ตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา
นายศุภชัยกล่าวว่า ตนได้แต่งงานอยู่กินกับนางบุปผามาร่วม 16 ปี มีลูกสาวด้วยกันทั้งหมด 3 คน โดยคนที่ 1 อายุ 16 ปี เรียนอยู่ชั้น ปวช.ปี 1 คนที่ 2 อายุ 12 ปี เรียนอยู่ ป.6 และคนสุดท้อง อายุ 6 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.1 ตนมีอาชีพเป็นลูกจ้างส่งไก่ชำแหละในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และลำพูน สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ได้ค่าจ้างเดือนละประมาณ 9,000 กว่าบาท ต่อมา นางบุปผาอยากทำงานหาเงินช่วยเหลือครอบครัว จึงมาทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่งใน จ.ลำพูน โดยเข้าพักที่หอพักพัตรพิมล โดยตนจะแวะเวียนมาหาสัปดาห์ละ 2 ครั้งเป็นประจำ กระทั่งมีอยู่ช่วงหนึ่งนางบุปผาได้พูดเปรยว่า ได้คบกับผู้ชายคนหนึ่ง มีอาชีพเปิดเต็นท์รถที่ลำพูน เป็นเวลา 4-5 เดือน ขณะนี้อยู่ระหว่างดูใจกันอยู่ ตนจึงพูดเล่นๆ ว่าถ้ามีแฟนใหม่ให้ความสุขเธอได้ก็จะยอมหย่า และต้องให้เงินตน 1 ล้านบาท เพื่อใช้หนี้ ธ.ก.ส.และเก็บไว้เลี้ยงลูกๆ ทั้ง 3 คน
นายศุภชัยกล่าวอีกว่า นางบุปผาบอกว่าเขาไม่ได้รวยถึงขนาดนั้น กระทั่งวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนได้แวะไปหานางบุปผาที่หอพักก็ไม่พบตัว ทางเจ้าของหอพักบอกว่านางบุปผาไม่ได้กลับมาที่หอพักหลายวันแล้ว และทรัพย์สินภายในห้องก็ไม่ได้เอาอะไรไปด้วย ส่วนที่ทำงานก็แจ้งว่าได้ลาออกไปแล้ว ตนจึงเป็นห่วงมากว่าจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร จึงได้เดินทางไปแจ้งความต่อ ร.ต.อ.สวัสดิ์ อัฐวงศ์ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.นิคมอุตสาหกรรม อ.เมืองลำพูน ไว้เป็นหลักฐานแล้ว
“เคยมีญาติๆ ของนางบุปผาเคยยุว่าอยู่กันมาถึง 16 ปี ยังไม่มีอะไรดีขึ้น ให้นางบุปผาหย่าขาดไปหาผัวใหม่อาจจะได้ดีกว่า และในที่สุดก็อาจเป็นไปได้ที่นางบุปผาตัดสินใจไปคบกับชายคนใหม่ ผมขอฝากไปถึงนางบุปผาว่าจะมีแฟนใหม่ก็ไม่ว่าอะไร ให้ติดต่อมาด่วนเพื่อจะได้ตกลงกันเรื่องลูกๆ ทั้ง 3 คน เรื่องจดทะเบียนหย่าและเรื่องปัญหาหนี้สินที่ ธ.ก.ส.อยู่จำนวนกว่า 3 แสนบาท” นายศุภชัยกล่าว
นายศุภชัยกล่าวด้วยน้ำเสียงโศกเศร้าว่า ขณะนี้ตนรับภาระหนักกับรายจ่ายประจำวัน โดยเฉพาะจ่ายให้ลูกไปโรงเรียน คนโตให้วันละ 100 บาท น้องๆ 2 คน ให้คนละ 25 บาท วันก่อนลูกคนเล็กวัย 6 ขวบที่ให้เงินไป 25 บาท พอตกเย็นลูกคนเล็กยื่นเงินให้ 5 บาท บอกว่าเหลือจากซื้อขนมกินให้พ่อเก็บไว้ ทำให้ตนน้ำตาไหลในความกตัญญูของลูกสาวที่เพิ่งอายุได้ 6 ขวบเท่านั้น
