โคราชแล้งหนัก! พืชผลเกษตรเสียหาย 2.6 ล้านไร่ ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติฉุกเฉิน ช่วยเหลือด่วน

เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ภัยแล้งจากภาวะฝนทิ้งช่วงยาวนานในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ว่า ส่งผลชาวบ้านหลายพื้นที่ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งจากข้อมูลสรุปสาธารณภัยของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมา ล่าสุด ระบุว่า มีการประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย สถานการณ์ฝนแล้ง รวม 26 อำเภอ 203 ตำบล 3 เทศบาลตำบล 2,481 หมู่บ้าน ราษฎร 370,968 ครัวเรือน 650,581 คนได้รับความเดือดร้อน และมีพืชไร่เสียหาย 2,844,292 ไร่ ซึ่งในจำนวนนี้ มี 20 อำเภอ 159 ตำบล 2 เทศบาลตำบล 39 ชุมชน 2,278 หมู่บ้าน ที่ประกาศเป็นเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ฝนแล้ง ตามระเบียบกระทรวงการคลัง เพื่อช่วยเหลือและชดเชยให้กับผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2562 ตามมาตรการต่างๆ

ขณะเดียวกัน พื้นที่การเกษตรที่มีการเพาะปลูกไปแล้วทั้งหมด 5,727,185 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่ปลูกข้าว 3,271,354 ไร่, ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 482,668 ไร่, มันสำปะหลัง 1,280,042 ไร่ และอ้อยโรงงาน 693,121 ไร่ ได้รับความเสียหายแล้ว 2,059,298 ไร่ โดยเป็นพื้นที่ปลูกข้าว 1,595,731 ไร่, ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 231,284 ไร่, มันสำปะหลัง 42,562 ไร่ และอ้อยโรงงาน 53,100 ไร่ ซึ่งนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้สั่งการให้สำนักงานเกษตรจังหวัด ร่วมกับสำนักงานเกษตรอำเภอ และอำเภอทุกอำเภอ เร่งสำรวจความเสียหายตามหลักเกณฑ์จากสถานการณ์ภาวะฝนแล้ง กรณีนาข้าวแห้งตายหรือเสียหายโดยสิ้นเชิง พร้อมกับให้รายงานเหตุด่วนสาธารณภัย เพื่อประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินภาวะฝนแล้ง เพื่อนำเงินทดรองราชการฉุกเฉินมาช่วยเหลือเยียวยาให้กับผู้ประสบภัย

ส่วนหมู่บ้านเป้าหมายที่ต้องเร่งแจกจ่ายน้ำช่วยเหลือ เข้าถังน้ำกลางและเข้าระบบประปาหมู่บ้าน มี 15 อำเภอ 39 ตำบล 64 หมู่บ้าน ขณะที่การประปาส่วนภูมิภาคที่คาดว่า จะประสบปัญหาขาดแคลนน้ำดิบผลิตประปา มีจำนวน 3 แห่ง ได้แก่ การประปาส่วนภูมิภาค สาขาพิมาย รับผิดชอบอำเภอพิมาย อำเภอห้วยแถลง และอำเภอคง, สาขาด่านขุนทด รับผิดชอบอำเภอด่านขุนทด และสาขาโนนสูง รับผิดชอบอำเภอโนนสูง ซึ่งได้แก้ไขปัญหาเร่งด่วนแล้ว ด้วยการวางท่อต่อเข้าเครื่องสูบน้ำของชลประทาน และติดตั้งเครื่องสูบน้ำทำการสูบดึงน้ำจากแหล่งน้ำต่างๆเข้ามาเติม ส่วนการประปาอื่นๆ ได้แก่ สาขานครราชสีมา, ปากช่อง, ครบุรี, สีคิ้ว, ปักธงชัย,โชคชัย และชุมพวง มีแหล่งน้ำดิบสามารถใช้ได้เกินกว่า 100 วัน

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image