ผู้ว่าฯพิษณุโลก นำเรือ-อุปกรณ์เร่งอพยพชาวบ้านพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม-น้ำป่าหลากฉับพลัน

ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกพร้อมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือชาวบ้านในหลายตำบลของ อ.เนินมะปราง ที่ถูกน้ำท่วมหนัก พร้อมตั้งศูนย์วอร์รูมช่วยเหลือด่วน ด้านมณฑลทหารบกที่ 39 (มทบ.39) เร่งอพยพผู้ประสบอุทกภัยออกจากพื้นที่ และพบมีชาวบ้านติดในรถถูกน้ำพัดออกไปจากถนนจนติดค้างนานกว่า 7 ชั่วโมง ต้องระดมเจ้าหน้าที่ทหารลุยน้ำไปตามจุดที่สูงพร้อมทั้งมัดเชือกจนช่วยเหลือสำเร็จ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสถานการณ์ฝนตกหนักเนื่องจากพายุ “โพดุล” ทำให้น้ำป่าจากเทือกเขาอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงหลากลงสู่ลุ่มน้ำชมพูท่วมในพื้นที่ ต.บ้านมุง อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก และตลอดทั้งวันได้เกิดฝนตกหนัก ทำให้คลองชมพูปริมาณน้ำสูงกว่า 7 เมตร ทำให้กว่า 4 ตำบล ใน อ.เนินมะปราง ถูกน้ำท่วมขังและน้ำป่าไหลหลากเฉียบพลัน บ้านเรือนเสียหายจำนวนมาก

Advertisement

ล่าสุดนายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพิษณุโลก ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 9 เจ้าหน้าที่กู้ภัย ได้นำเรือและอุปกรณ์ในการช่วยเหลือและเร่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงที่ถูกน้ำท่วมฉับพลัน โดยเฉพาะในหมู่ที่ 1 บ้านมุงเหนือ หมู่ที่ 4 บ้านลำภาศ หมู่ที่ 7 บ้านเนินสว่าง น้ำท่วมถนนสายลำภาศ-วังยาง ระดับน้ำสูง 50 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้ และในตำบลวังยาง มีบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำป่าหลากท่วม ได้แก่ หมู่ที่ 1 บ้านคลองตะเคียน หมู่ที่ 2 บ้านไทรดงยั้ง หมู่ที่ 3 บ้านวังดินเหนียว หมู่ที่ 6 บ้านวังยางเหนือ หมู่ที่ 7 บ้านวังยางใต้ ขณะที่ถนนสายไทรดงยั้ง-วังโป่ง ระดับน้ำสูง 50 เซนติเมตร รถเล็กสัญจรผ่านไม่ได้ ทางผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกต้องลุยน้ำนำสิ่งของไปช่วยเหลือชาวบ้านเป็นการเบื้องต้น

นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า หลังจากเกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ ต.ไทรย้อย ต.บ้านมุง ต.เนินมะปราง ต.ชมพู ที่น้ำจากเทือกเขาทุ่งแสลงหลวง ไหลบ่าลงสู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำพื้นที่บ้านเรือนเสียหายเป็นบริเวณกว้าง จนประชาชนจำนวนมากต้องเร่งอพยพขึ้นที่สูงเป็นการด่วน นอกจากนี้ยังได้รับรายงานว่ามีประชาชนที่ขับรถอยู่ก็ถูกน้ำป่าไหลหลากจนรถตกคูน้ำได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่กู้ภัยรีบน้ำส่งโรงพยาบาลอีก 4 ราย อีกทั้งในพื้นที่ลุ่มต่ำมีประชาชนที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง เจ้าหน้าที่ก็ช่วยกันลำเลียงมาอยู่บนพื้นที่สูง เพื่อความปลอดภัย โดยในวันพรุ่งนี้ทางเจ้าหน้าที่ ปภ.จะเร่งสำรวจความเสียหายอีกครั้ง

พันเอก วัชรพงศ์ แก้วแจ้ง รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 39 /รองผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 39 จัดกำลังพลกองร้อยบรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 39 กว่า 100 นาย พร้อมรถยนต์บรรทุก, เรือท้องแบนแบบติดเครื่องยนต์ท้าย และอุปกรณ์ในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ลงพื้นที่หมู่ที่ 15 บ้านหนองปอ ตำบลไทรย้อย อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก เร่งอพยพผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่เสี่ยง ออกจากบ้านเรือน จนเมื่อเวลา 02.15 น. ได้มีประชาชนมาแจ้งว่ามีลูกบ้านติดอยู่กลางน้ำที่เชี่ยวกราก ในรถยนต์ที่ถูกน้ำพัดออกจากถนนไปไกลกว่าร้อยเมตร พยายามช่วยแต่น้ำแรงมากเข้าไม่ไหวและรถน่าจะใกล้จมน้ำเพราะมีฝนตกอย่างหนักลงมาอีกระลอก ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 39 จึงรีบจัดส่งกำลังพล 37 นาย พร้อมเรือท้องแบนติดเครื่องยนต์จำนวน 1 ลำเข้าช่วยทันที ปรากฏแรงของเรือไม่สามารถฝ่ากระแสน้ำเข้าไปได้ จึงตัดสินใจปรับแผนให้กำลังทหารลุยน้ำไปในพื้นที่สูง นำเชือกต่อกันพร้อมห่วงยางและชูชีพ ลอยตัวเข้าช่วยเหลือทันที จนกระทั่ง เวลา 03.15 น. สามารถนำตัวนายสินชัย แก้ววิเศษ ออกมาได้ด้วยความปลอดภัย เจ้าตัวบอกดีใจมากกำลังหมดแรงอยู่ในรถเพราะติดอยู่ในน้ำกว่า 7 ชม. เฝ้ามองทหารเอาเรือเข้าไปช่วยแต่ถูกกระแสน้ำพัดออกไปยังเอาเชือกโรยตัวเข้าช่วยมาได้ ดีใจมากและขอบใจมากที่จิตอาสา มทบ.39 ช่วยชีวิตออกมาได้ในครั้งนี้

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image