มวลน้ำก้อนสุดท้ายทะลักท่วมทางเข้าอำเภอจอมพระ สุรินทร์ ถนนหลายแห่งถูกตัดขาด

มวลน้ำก้อนสุดท้าย..จากผลพวงพายุโพดุลและคาจิกิ.. ทะลักท่วมทางเข้าอำเภอจอมพระ..ถนนเข้าสถานที่ราชการหลายแห่งถูกตัดขาด..ต้องใช้ทางเลี่ยงแทน..ขณะที่โรงเรียนที่ท่วมยังคงปิดการเรียนไปอีก 2 วัน..ส่วนดินขอบสะพานถนนสาย 214 ที่พัง เจ้าหน้าที่เร่งซ่อมแซมแล้ว..ส่วนปริมาณน้ำที่หลากเข้าท่วมเริ่มลดระดับลง หลังพายุพัดผ่านไปและฝนไม่ตกลงมา

เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ หลังพายุโพดุลและคาจิกิ พัดเข้ามาทำให้มีฝนตกลงมาตลอดหลายวันที่ผ่านมา และส่งผลให้มีปริมาณน้ำสะสมไหลลงลำห้วยจำนวนมาก ก่อนไหลลงไปยังแม่น้ำมูล ในพื้นที่อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์

โดยล่าสุดวันนี้ปริมาณน้ำสะสมจากพื้นที่อำเภอใกล้เคียงอำเภอจอมพระ จังหวัดสุรินทร์ ได้ไหลผ่านมายังอำเภอจอมพระ เพื่อไหลลงสู่ลำห้วยระวี จำนวนมาก ทำให้น้ำท่วมถนนทางเข้าอำเภอจอมพระ ซึ่งมีสถานที่ราชการหลายแห่ง อาทิ ที่ว่าการ อ.จอมพระ สถานีตรวจ โรงพยาบาล สนง.เทศบาลตำบลจอมพระ และ อบต.จอมพระ รวมถึงบ้านพักข้าราชการ ทำให้ถนนทางเข้าหลักมีระดับน้ำท่วมสูงกว่า 80 เซนติเมตร รถไม่สามารถสัญจรผ่านไปได้ ต้องใช้เส้นทางอื่นเลี่ยงแทน รวมทั้งถนนหมายเลข 214 ที่ผ่านกลางอำเภอจอมพระ มีน้ำท่วมสูงประมาณ 30 เซนติเมตร ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา จนกระทั่งช่วงเช้านี้ก็ยังพบน้ำท่วมถนนอยู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ทั้งอาสาสมัครและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จอมพระ ต้องคอยให้บริการผู้สัญจรไปมาตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ยังพบว่าน้ำได้ไหลเข้าไปยังพื้นที่ชุมชนในตลาดอำเภอจอมพระ และโรงเรียนบ้านจอมพระ ซึ่งเป็นโรงเรียนประถมขนาดใหญ่ประจำอำเภอ โดยน้ำได้ท่วมบริเวณหน้าอาคารเรียนชั้นอนุบาลและประถม แต่อาคารเป็นอาคารสูง จึงยังไม่ส่งผลให้ได้รับความเดือดร้อน การเรียนการสอนยังคงดำเนินไปตามปกติ

อย่างไรก็ตาม หลังจากพายุโพดุลและคากิจิได้ผ่านไป จนถึงขณะนี้ยังไม่มีฝนตกลงมา ทำให้ปริมาณน้ำที่ไหลลงลำห้วยต่างๆ เริ่มลดลง รวมไปถึงน้ำก้อนสุดท้ายจากผลของพายุที่ไหลเข้าท่วมถนนและอำเภอจอมพระ ก็เริ่มลดลงต่อเนื่องเช่นกัน คาดว่าสถานการณ์จะคลี่คลายใน 1-2 วันนี้

Advertisement

ในขณะที่โรงเรียนบ้านทุ่งโก ตำบลหนองเมธี อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 2 ซึ่งเป็นโรงเรียนที่อยู่ติดกับลำห้วยลึก เป็นลำห้วยซึ่งน้ำจะไหลลงสู่ลำห้วยระวีและลงไปยังแม่น้ำมูล จากปริมาณน้ำฝนที่ตกตลอดช่วงพายุ 2 ลูกที่เข้ามา ทำให้มีน้ำไหลลงมาที่ลำห้วยเป็นจำนวนมาก เอ่อไหลเข้าท่วมอาคารเรียนและบริเวณโรงเรียนสูงกว่า 50 เซนติเมตร ครูและชาวบ้านต่างเร่งเก็บอุปกรณ์การเรียนที่อยู่ชั้นล่างของอาคารเรียนขึ้นที่สูงอย่างเร่งด่วน แต่ก็มีอุปกรณ์การเรียนบางส่วนที่ยังคงถูกน้ำท่วมอยู่ ส่งผลให้ต้องประกาศปิดการเรียนแล้ว เพื่อความปลอดภัยของเด็กนักเรียน และคณะครู ตั้งแต่เมื่อวานนี้ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น ล่าสุดพบว่าระดับน้ำที่ท่วมเข้ามาที่โรงเรียนก็เริ่มลดลงแล้ว เนื่องจากคันดินกั้นลำห้วยใกล้กับสะพานทางน้ำไหลเกิดขาด ทำให้น้ำไหลเปลี่ยนทิศออกไป แต่ทางโรงเรียนก็ยังคงปิดไปอีก 2 วัน จนกว่าน้ำจะลดลงเข้าสู่ภาวะปกติ โดยจะเปิดการเรียนการสอนในวันจันทร์นี้

ส่วนกรณีสะพานเชื่อมถนนหลวง สาย 214 ถนนสายหลักจากจังหวัดสุรินทร์ไปยัง อำเภอท่าตูม มุ่งสู่จังหวัดร้อยเอ็ด น้ำจากลำห้วยที่ไหลผ่านได้กัดเซาะขอบสะพานชำรุดถึง 3 จุด ช่วงระหว่างอำเภอจอมพระไปยังอำเภอท่าตูม เจ้าหน้าที่ได้เร่งเข้าซ่อมแซมเร่งด่วน โดยจุดแรกบริเวณสะพาน ช่วงบ้านท่าศิลา ตำบลเมืองแก อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ ระดับน้ำในลำห้วยสูงและไหลแรง กัดเซาะขอบสะพาน เจ้าหน้าที่เร่งน้ำรถแบ๊กโฮนำดินเข้ามาถมขอบสะพานเพื่อความแข็งแรงเร่งด่วน ในขณะที่จุดที่ 2 ซึ่งช่วงใกล้ทางเข้าหมู่บ้านหนองสิม ตำบลจอมพระ อำเภอจอมพระ จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นสะพานและกำลังมีการก่อสร้างขยายเส้นทาง แรงน้ำจากลำห้วยที่ไหลผ่านมุ่งลงสู่ลำห้วยระวี กัดเซาะแนวถนนทั้ง 2 ฝั่งพังลง ลึกเข้ามาถึงถนนลาดยาง โดยในวันนี้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เร่งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเร่งด่วนแล้ว โดยมีการนำดินมาถมบริเวณที่ดินพังลงและแท่นกั้นน้ำเซาะดินขอบสะพาน จากนั้นได้นำแท่งแบริเออร์ มาวางกั้นขอบถนนเพื่อเป็นสัญลักษณ์และสร้างความลอดภัย ให้กับผู้สัญจรไปมาได้รับทราบ และระดับน้ำที่ไหลก็เริ่มลดลงแล้ว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image