ลำน้ำก่ำเริ่มลด เร่งระบายจากหนองหาร นาข้าวตายแล้วกว่าหมื่นไร่

เมื่อวันที่ 9 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ในช่วงนี้ พบว่า ระดับน้ำลำน้ำสาขาสายหลัก ที่ได้รับผลกระทบจากพายุ 2 ลูก ทำให้มีฝนตกหนัก มีปริมาณน้ำสูงจนล้นตลิ่ง ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุดระดับน้ำลำน้ำสาขาสายหลัก ประกอบ ลำน้ำอูน ลำน้ำสงคราม รวมถึงลำน้ำก่ำ ได้ลดระดับต่อเนื่อง ส่งผลให้พื้นที่การเกษตร รวมถึงชุมชนในพื้นที่ลุ่ม ซึ่งได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ ยังคงมีเพียงพื้นที่การเกษตรนาข้าวที่ได้รับความเสียหาย

ส่วนลำน้ำก่ำที่รอบมวลน้ำ จาหนองหาร ที่เกินความจุ พบว่า ปริมาณน้ำเริ่มลดลงประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากมีการระบายน้ำลงน้ำโขงได้ หลังน้ำโขงลดระดับวันละประมาณ 10-20 เซนติเมตร ล่าสุดอยู่ที่ระดับประมาณ 7 เมตร ห่างจากจุดวิกฤติล้นตลิ่ง ประมาณ 6 เมตร ทำให้สามารถรับการระบายน้ำจากลำน้ำสาขาได้ดี โดยทางชลประทานจังหวัดนครพนม ยังคงเร่งระบายน้ำ ลำน้ำก่ำ ลงน้ำโขง ซึ่งมีการเสริมเรือผลักดันน้ำ เร่งระบายในลำน้ำก่ำ เพื่อช่วยพื้นที่ บ้านปากบัง ต.พิมาน อ.นาแก จ.นครพนม ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยง บ้านเรือนชาวบ้านกว่า 300 ครัวเรือน ตั้งอยู่ใกล้จุดบรรจบน้ำระหว่างน้ำก่ำ กับลำน้ำบัง ทำให้ เกิดผลกระทบเอ่อท่วม ล่าสุดระดับน้ำเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ยังต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดพายุซ้ำอีก แต่ยังมีพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมเสียหาย

โดยจากข้อมูลสรุปความเสียหายของ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.นครพนม พบว่า ในช่วงที่ผ่านมาผลกระทบจากพายุ ทำให้ มีพื้นที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วม พื้นที่ 3 อำเภอ 13 ตำบล 73 หมู่บ้าน นาข้าวถูกน้ำท่วม 11,341 ไร่ คาดว่าจะเสียหาย 10,746 ไร่ ประกอบด้วย อำเภอนาแก ถูกน้ำท่วมพื้นที่การเกษตร 8 ตำบล เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน 1,082 ราย นาข้าวถูกน้ำท่วม 9,241 ไร่ คาดว่าจะเสียหาย 9,022 ไร่ อำเภอเรณูนคร ถูกน้ำท่วม 3 ตำบล เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน 200 ราย น้ำท่วมนาข้าว 1,366 ไร่ คาดว่าจะเสียหาย 1,366 ไร่ และอำเภอโพนสวรรค์ ถูกน้ำท่วม 2 ตำบล เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน 89 ราย นาข้าวถูกน้ำท่วม 734 ไร่ คาดว่าจะได้รับความเสียหาย 358 ไร่ อยู่ระหว่างการเร่งสรุปความเสียหาย ช่วยเหลือตามระเบียบทางราชการ

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image