เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 10 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการรับเงินช่วยเหลือ หลังกรมบัญชีกลางโอนเข้าสู่กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพให้แก่ผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 14.6 ล้านคน ในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว ช่วงเดือนสิงหาคมและเดือนกันยายน ตามเลขนำหน้าในบัตรประชาชน รายละ 300-500 บาท โดยแบ่งเป็น 3 มาตรการ คือ 1.มาตรการพยุง การบริโภคฯ 500 บาทต่อคนต่อเดือน 2.มาตรการมอบเงินช่วยเหลือสำหรับผู้สูงอายุฯ 500 บาทต่อคนต่อเดือน และ 3. มาตรการช่วยเหลือการเลี้ยงดูบุตรฯ 300 บาทต่อคนต่อเดือน
ทั้งนี้ ช่วงเวลานี้นับเป็นช่วงที่ 2 ของการจ่ายเงินช่วยเหลือของเดือนกันยายน ส่งผลให้เช้าวันนี้มีประชาชนผู้ถือบัตรสวัสดิการฯมากดเงินที่ธนาคารกรุงไทย สาขาหนองฉาง อำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี จำนวนมาก อย่างไรก็ดี จากการสำรวจพบว่าผู้ถือบัตรส่วนใหญ่เป็นผู้สูงวัย หากคนไหนยืนไม่ไหวจะใช้วิธีการจำคิวของตัวเองแล้วออกจากแถวมานั่งรอ พร้อมอาศัยคนที่กดบัตรเป็นให้ช่วยกดบัตรให้ ทั้งนี้ ผู้ถือบัตรส่วนใหญ่เริ่มเข้าใจระบบวันที่เงินเข้าและการกดเงินได้ดีมากขึ้น ทำให้การกดเงินเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีประชาชนแออัดจนแน่นธนาคารเหมือนช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
ประชาชนบางส่วนกล่าวว่า ดีใจที่รัฐให้ความช่วยเหลือคนจนเพิ่มเติมในช่วงที่เศรษฐกิจฝืดเคืองเช่นนี้ เงินที่ได้รับจะนำไปซื้อของใช้อุปโภคบริโภคในครัวเรือน โดยเฉพาะข้าวสารที่ในปีนี้เกิดสภาวะภัยแล้งยาวนาน จนไม่สามารถทำนาปลูกข้าวกันได้ ทำให้ต้องซื้อข้าวสารกินกันจำนวนมาก ตลอดจนไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และใช้ในการเดินทางไปหาหมอที่โรงพยาบาล
