ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวว่า เมื่อวันที่ 11 กย. เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง ชาวประมงพื้นบ้าน นำเรือออกไปช่วยเหลือโลมาหลังโหนก ขนาดตัวเต็มวัย ที่ถูกเชือกลอบปูม้าพันติดตัวอยู่ประมาณ 6-7 เส้น ลอยอยู่บริเวณทะเลอ่าวไทยพื้นที่ ต.ปากแตระ อ.ระโนด จ.สงขลา ห่างจากฝั่งประมาณ 1 กม.
โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพบว่าโลมามีอาการอ่อนแรง เนื่องจากเหนื่อยล้าจากความพยายามที่จะดิ้นให้หลุดจากเชือกลอบปูม้าที่พันติดตัวอยู่ แต่ยังสามารถว่ายน้ำหนีและพยุงตัวอยู่ได้ เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจทำการล้อมจับโลมาเพื่อรีบให้การช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด เพราะเป็นนาทีชีวิตของโลมา
รายงานข่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้ทำการตัดเชือกลอบปูม้าที่พันตัวอยู่จนหลุด และประเมินสุขภาพและวินิจฉัยอาการในเบื้องต้น พบว่าโลมายังสามารถว่ายน้ำและยังมีแรงจึงได้ปล่อยให้โลมาว่ายน้ำเอง และหลังจากปล่อยให้โลมาว่ายน้ำออกจากเรือ เจ้าหน้าที่ได้เฝ้าติดตามก็ไม่พบเห็นโลมาอีก คาดสามารถว่ายน้ำกลับสู่ทะเลได้ตากปกติและปลอดภัย ท่ามกลางความดีใจของเจ้าหน้าที่ที่สามารถช่วยได้ทัน เพราะหากช้ากว่านี้ก็อาจจะเป็นอันตรายหรืออาการอาจแย่ลง
อย่างไรก็ตามภาพเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 ก.ย.หลังจากที่ นายสานันท์ ปิกดำ ชาวประมงพื้นที่ได้ออกเรือไปพบโลมาลอยติดเครื่องมือประมงอยู่ในทะเล จึงรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือ
รายงานข่าวว่าโลมาหลังโหนก หรือ โลมาขาวเทา หรือ โลมาเผือก หรือ โลมาสีชมพู ทันที เป็นโลมาสายพันธุ์หายาก และใกล้สูญพันธุ์ พบได้ทั้งฝั่งอ่าวไทยและทะเลอันดามัน บริเวณชายฝั่งที่มีน้ำตื้นไม่เกิน 20 เมตรในประเทศไทย จัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ลักษณะมีจะงอยปากยาวโค้ง ส่วนของฐานครีบหลังจะเป็นสันนูนสูงรองรับครีบหลัง กินปลาตามชายฝั่งและในแนว
