เมื่อวันที่ 16 กันยายน ที่กองร้อยทหารพรานที่ 2107 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี บ้านปากห้วยม่วง หมู่ 2 ต.นาเข อ.บ้านแพง จ.นครพนม พ.อ.ตระกูล ไทยสมัคร ฝ่ายเสนาธิการ บก.ควบคุม กองทัพภาคที่ 2 พร้อมด้วย ร.อ.อาคม สมสนุก ผบ.กองร้อยทหารพรานที่ 2107 แถลงผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ ได้ผู้ต้องหา 2 ราย คือ นายวรชน คัชวา หรือสาวประเภทสอง ที่รู้จักกันในกลุ่มว่า เจ๊หนึ่ง อายุ 22 ปี บ้านเลขที่ 45 หมู่ 10 ต.พะทาย อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม พร้อมเพื่อนร่วมแก๊ง นายรักษ์ศักดิ์ ดวงสงค์ อายุ 28 ปี บ้านเลขที่ 49/2 หมู่ 1 ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน ตรวจของกลางยาบ้า รวมจำนวน 12,000 เม็ด ของกลาง รถยนต์กระบะใช้กระทำความผิด เป็นรถยนต์ 4 ประตู ยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีขาว ทะเบียน กฉ 1058 สกลนคร
โดยจับกุมได้หลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงได้มีการ จับกุมขบวนการค้ายาเสพติด ในพื้นที่ อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จนกระทั่งมีการสอบสวนขยายผลว่า ได้มีการติดต่อซื้อมาในพื้นที่ชายแดน อ.ท่าอุเทน จ.นคพรนม จากนั้นทางเจ้าหน้าที่จึงได้มีการสอบสวน ขยายผล ติดตามพฤติกรรมบุคคลต้องสงสัย ที่เชื่อมโยงเครือข่ายขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ จนสามารถจับกุม นายวรชน คัชวา หรือสาวประเภทสอง ที่รู้จักกันในกลุ่มว่า “เจ๊หนึ่ง” อายุ 22 ปี เอเย่นต์ยาบ้ารายสำคัญ ขณะขับรถยนต์กลับมาจากไปรับยาบ้า บริเวณถนนในพื้นที่ ต.พะทาย อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ที่ลักลอบนำยาเสพติด มาจากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อนำมาส่งขายให้เครือข่าย ซึ่งได้มีการสกัดตรวจค้นรถยนต์ดังกล่าว พบของกลางยาบ้า และควบคุมตัวทั้งสองมาสอบสวนขยายผล
เบื้องต้นจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ให้การรับสารภาพว่า ติดยาเสพติดมานาน มีพฤติกรรมเสพยาบ้า จากนั้น จึงอยากมีรายได้ และผันตัวไปติดต่อกับ พ่อค้ายาบ้าชาวลาว ลักลอบนำยาบ้ามาส่งมอบให้ เพื่อนำไปส่งขายให้เอเย่น รวมถึงกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ ซึ่งจะใช้วิธีนัดหมายทางโทรศัพท์ ก่อนนำยาบ้ามาพักตามริมถนน และนัดหมายไปรับ ก่อนนำไปพักไว้ส่งขายต่อ ในราคาเม็ดละ 150-200 บาท นอกจากนี้ ยังตรวจสอบพบว่า ทั้ง 2 มีการเสพยาบ้ามาก่อน ซึ่งจะได้เร่งสอบสวนขยายผล เชื่อมโยงไปถึง นายทุนเครือข่าย ค้ายาบ้ารายสำคัญในพื้นที่ เชื่อว่าจะมีนายทุนรายสำคัญอยู่เบื้องหลัง ในการดูแลติดต่อซื้อยาบ้ามาส่งขาย และขยายผลติดตามจับกุม ลูกค้าในเครือข่าย ที่ติดต่อซื้อไปเสพ เป็นการตัดวงจรการค้า ในพื้นที่ชายแดน ส่วนยาบ้าดังกล่าวหากส่งไปขาย คิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท
