หนี้รุม-โดนไล่ยึดรถ แม่ทนพิษเศรษฐกิจไม่ไหว อุ้มลูกสาวรมควัน ตายคาอ้อมอกในรถยนต์

พ่อเรียกลูกสาวคนโตให้ไปปลุกแม่ เรียกน้องเพื่อไปโรงเรียน แต่ต้องพบว่าภรรยาใช้เตาถ่านรมควันภายในรถ พร้อมลูกสาวคนเล็ก วัย 11 ปี ดับคาอ้อมอกแม่ ส่วนแม่ยังหายใจรวยริน คาดพิษเศรษฐกิจตกต่ำ รายได้ไม่พอรายจ่าย อีกทั้งไฟแนนซ์ตามทวงยึดรถที่ใช้ทำมาหากิน

เมื่อเวลา 06.45 น. วันที่ 18 กันยายน 2562 พ.ต.ต.นิพนธ์ ศรีไพบูลย์ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.พัฒนานิคม อ.พัฒนานิคม ลพบุรี ได้รับแจ้งมีผู้เสียชีวิต และผู้ได้รับบาดเจ็บจากการถูกรมควันภายในรถ ที่ร้านขายไม้เก่า ถ.สายลพบุรี-วังม่วง หมู่ที่ 9 ต.พัฒนานิคม ลพบุรี จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมทั้งได้ประสานแพทย์เวร รพ.พัฒนานิคมตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ลพบุรี นคร 88 และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูจุดพัฒนานิคม เดินทางไปยังจุดที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุเป็นร้านขายไม้เก่า พบมีชาวบ้านและญาติผู้เสียชีวิตนั่งร้องไห้ฟูมฟาย อยู่จำนวนหลายคนที่ท้ายรถกระบะ ยี่ห้อ โตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน บม-7778 สระบุรี พบศพ ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 11 ปี สภาพศพสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีชมพู กางเกงขายาวสีดำ ใกล้กันพบเตาถ่านที่มอดแล้ววางอยู่ใกล้ศพ ซึ่งจากการชันสูตรพลิกศพของแพทย์ ในเบื้องต้นน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10-12 ชั่วโมง

นายสุจิตร บุญหยาด สามีผู้เสียชีวิตบอกว่านางพิสมัย บุญหยาด อายุ 50 ปี ภรรยา ซึ่งหมดสติจากการสูดดมควันภายในรถถูกนำตัวส่ง รพ.พระนารายณ์มหาราช ในอาการสาหัส โดยเมื่อช่วงเช้าได้บอกกับ น.ส.พรรณิดา บุญหยาด อายุ 26 ปี ลูกสาวคนโตให้ไปเรียกแม่ ปลุกน้องเพื่อไปโรงเรียน แต่หาไม่พบที่บ้าน ตนเองและลูกสาวจึงเดินออกตามหาจนมาพบว่าภรรยาและลูกสาวนอนอยู่ในรถ เมื่อเปิดประตูต้องตกใจสุดขีดเมื่อพบว่าลูกสาวตาย ภรรยาหายใจรวยริน

Advertisement

โดยนายสุจิตรให้การอีกว่า เมื่อสองคืนที่ผ่านมา ภรรยาและลูกสาวคนเล็กได้ขอนอนอีกที่ โดยไม่คิดว่าจะมีการวางแผนเพื่อฆ่าตัวเองตายพร้อมกับลูกภายในรถ ซึ่งสาเหตุมาจากเครียดปัญหาหนี้สินรุงรัง ตนเองและครอบครัวอยู่ ต.คำหรั่ง อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี ย้ายประกอบอาชีพ ทำมาหากินภายในจังหวัดลพบุรีหลายสิบปี ทำทุกอย่างที่ได้เงิน แต่ระยะหลังเศรษฐกิจตกต่ำ ย่ำแย่ ค้าขายไม่ดี ชักหน้าไม่ถึงหลัง จนทำให้ภรรยาเครียด และที่สำคัญบริษัทไฟแนนซ์รถ จะยึดรถที่ภรรยารักมาก เพราะเป็นเครื่องมือในการทำมาหากิน พนักงานสอบสวนได้ส่งศพไปที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์รังสิตเฉลิมพระเกียรติ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image