ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ นางโสม พิมพ์วงศา อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 บ้านฮ่องคืบ ต.ผือใหญ่ อ.โพธิ์ศรีสุวรรณ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นผู้พิการตาบอดทั้ง 2 ข้าง หูหนวกเป็นใบ้ ได้ถูกญาติพี่น้องลูกหลานนำตัวเข้าแจ้งความกับ พนักงานสอบสวน สภ.โพธิ์ศรีสุวรรณ ว่า ถูกคนร้ายพยายามเผาบ้านจนเพลิงลุกไหม้เสื้อผ้า ทำให้ยายโสมได้รับบาดเจ็บเป็นแผลโดนไฟลวกที่หลังมือขวา ต้นขาซ้าย และหางคิ้วซ้าย ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ ตร.ได้ไปติดตามจับกุมตัว นายบุญทัน เกาะแก้ว อายุ 45 ปี ซึ่งบ้านอยู่ติดกับบ้านยายโสม แต่นายบุญทัน ได้ให้การปฏิเสธ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหาว่า บุกรุกและทำร้ายร่างกาย นำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 18 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 4 บ้านฮ่องคืบ ต.ผือใหญ่ อ.โพธิ์ศรีสุวรรณ จ.ศรีสะเกษ เป็นบ้านของนางโสม พิมพ์วงศา อายุ 70 ปี ซึ่งหวิดถูกคนร้ายย่างสด ได้มีญาติพี่น้องพากันมาเยี่ยมให้กำลังใจยายโสมอย่างต่อเนื่อง โดยมี นางอารีวรรณ ผมพันธุ์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฮ่องคีบ ซึ่งเป็นหลานสาวของยายโสมคอยดูแลอย่างใกล้ชิด
นางอารีวรรณ ผมพันธุ์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฮ่องคีบ ซึ่งเป็นหลานสาวของยายโสม กล่าวว่า ตนกำลังจะนำตัวยายโสมไปให้เจ้าหน้าที่สถานีอนามัยตำบลล้างแผลให้ ส่วนเรื่องคดีความนั้น จากการที่ได้สอบถามจากยายโสมแล้ว ไม่ติดใจเอาความ เนื่องจากว่า คนร้ายที่ก่อเหตุเป็นหลานชายของยายโสมเอง และมีบ้านอยู่ติดกัน และยายโสมไม่ได้รับบาดเจ็บมากนัก โดยนายบุญทันที่ก่อเหตุไม่เคยนำเอาอาหารการกินมาให้ยายโสมและไม่เคยมาจุดเทียนให้ยายโสมแต่อย่างใด ตนเป็นคนคอยดูแลยายโสมเอาข้าวปลาอาหารมาให้กินทุกวัน ตนจะให้ยายโสมไปอยู่ที่บ้านใกล้กัน ยายโสมไม่ยอมไปเนื่องจากว่า หากอยู่ที่บ้านยายโสมจะเข้าห้องน้ำได้สะดวกนั่นเอง นายบุญทันที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดีนี้เป็นน้องชายของตนที่พักอาศัยอยู่ด้วยกันเนื่องจากว่า นายบุญทันยังไม่มีครอบครัว ปกติแล้วนายบุญทันไม่ใช่คนโมโหร้าย ส่วนการที่ไปให้การกับตำรวจว่า เข้าไปจุดเทียนให้กับยายโสมจนเกิดไปไหม้นั้น คงอาจจะกลัวที่โดนตำรวจสอบสวนเลยให้การไปแบบนั้น
นายชาติโยดม วิจิตรศิริกุลชัย อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 หมู่ 14 ต.ผือใหญ่ ซึ่งอยู่ใกล้บ้านที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ตนได้เข้าไปเยี่ยมนายบุญทันที่ถูกพนักงานสอบสวนฝากขังอยู่ที่เรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ พบว่า นายบุญทันสบายดี ปกติแล้ว นายบุญทัน ผู้ต้องหารายนี้จะเป็นคนที่มีอัธยาศัยดี และมักจะมานั่งดื่มเหล้ากับตนเป็นประจำ ไม่ใช่คนโมโหร้าย การที่นายบุญทันถูกจับกุมไปนั้น น่าจะมีความเข้าใจผิดกันก็เป็นได้
ทางด้าน นายสมบัติ นนทภา ผู้ใหญ่บ้านฮ่องคีบ หมู่ 14 ต.ผือใหญ่ กล่าวว่า ตนไม่อยากให้เรื่องราวลุกลามใหญ่โต เนื่องจากว่า เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นภายในครอบครัวญาติพี่น้อง น่าที่จะเจรจาพูดคุยกันได้ ส่วนในการดูแลนางโสมนั้น จะได้รับเงินช่วยเหลือจากทางราชการหลายรายการเช่น ค่าเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ค่าเบี้ยยังชีพผู้พิการ และเงินจากบัตรประชารัฐ รวมแล้วเดือนละร่วม 2,000 บาท แต่ว่าอย่างไรก็ตามเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ตนพร้อมด้วยคณะกรรมการหมู่บ้านก็ได้เข้ามาดูแลช่วยเหลือและดูแลความสงบเรียบร้อยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนางโสมมีญาติพี่น้องซึ่งเป็นลูกหลานคอยดูแลอย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว
