แขวงฯเพชรบูรณ์ปัดไม่เคยมีการวิ่งเต้นปิดถนนตั้งร้านค้าบนถนนสายหลักในงานอุ้มพระดำน้ำ พร้อมปฏิเสธเรียกรับผลประโยชน์ ยันการอนุญาตเป็นอำนาจกรมทางหลวง นายก ทม.แจงเลี่ยงใช้ริมถนน
วันที่ 19 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีกลุ่มคนที่ใช้ชื่อ “กลุ่มเพชรแท้เพชรบูรณ์”และ “กลุ่มเพชรราชภัฎ” ได้ส่งหนังสือร้องเรียนไปยังแขวงทวงหลวงเพชรบูรณ์ที่ 1 โดยอ้างว่าจะมีการปิดถนนให้ผู้รับเหมาเอกชนตั้งเต้นท์บริเวณริมถนนทางหลวงสายหลัก(ทางหลวงหมายเลข 21) ช่วงหน้าองค์พระใหญ่ถึงศาลากลางจังหวัด ช่วงก่อนจัดงานประเพณีอุ้มพระดำน้ำที่จะมีขึ้นในห้วงวันที่ 26 กันยายนถึงวันที่ 1 ตุลาคมนี้ เป็นเวลา 16-17 วัน มีความเหมาะสมหรือไม่พร้อมทั้งสอบถามถึงเหตุผลอึกด้วย
ล่าสุด นายอลงกรณ์ พรหมศิลป์ ผู้อำนวยการแขวงการทางเพชรบูรณ์ ได้มีหนังสือชี้แจงทางเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ โดยสรุปว่าการปิดถนนจัดงานฯแขวงไม่มีอำนาจหน้าที่จะสามารถพิจารณาอนุญาตให้ดำเนินการปิดถนนได้ เป็นอำนาจของกรมทางหลวงเป็นผู้พิจารณา หากมีผู้ใดฝ่าฝืนเป็นการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ทางหลวง พ.ศ.2535(ฉบับที่2) พ.ศ.2549 มีความผิดตามมาตรา 39 โดยมีโทษตามมาตรา 72 จำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 60,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และความผิดมาตรา 44 มีโทษตามมาตรา 73/1 จำคุกไม่เกิน 3 เดือนหรือปรับไม่เกิน 5,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้นายอลงกรณ์ยังปฏิเสธข้อร้องเรียนเรื่อง การวิ่งเต้นปิดถนนให้ร้านค้าของผู้รับเหมาเอกชนตั้งจำหน่ายบนทางหลวง โดยยืนยันว่าทางแขวงฯไม่มีการรับผลประโยชน์จากบุคคลหรือหน่วยงานใดๆ กรณีอนุญาตให้ปิดถนน โดยแขวงฯปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ทางหลวงฯ ในการควบคุมทางหลวงอย่างสม่ำเสมอตลอดมา หากมีบุคคลหรือหน่วยงานใดแอบอ้างทำให้ทางแขวงฯได้รับความเสียหาย โปรดแจ้งให้ทางแขวงฯรับทราบเพื่อจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้นายอลงกรณ์ยังยืนด้วยว่า แขวงฯยินดีให้ความร่วมมือกับทางจังหวัดเพชรบูรณ์เกี่ยวกับการจัดงานประเพณีอุ้มพระดำน้ำและงานตามเทศกาลต่างๆ แต่ต้องไม่ขัดต่อระเบียบปฏิบัติตามพ.ร.บ.ทางหลวงฯในการควบคุมทางหลวง
ด้านนายเสกสรร นิยมเพ็ง นายกเทศมนตรีเมืองเพชรบูรณ์ กล่าวว่า ในปีนี้ไม่ได้มีการปิดถนนทางหลวงฯเหมือนกับปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกันได้มีการปรับเปลี่ยนให้ทางคารวานสินค้า ไปตั้งร้านขายสินค้าบริเวณริมถนนข้างศาลากลางซึ่งเป็นเส้นทางรอง และเป็นถนนที่ทางท้องถิ่นดูแลอยู่ โดยมีการขออนุญาตอย่างถูกต้องตามระเบียบเรียบร้อยแล้ว โดยในช่วงเช้าและกลางวันยังเดินรถได้ตามปกติ เพียงแต่ในช่วงเย็นและช่วงกลางคืนจำเป็นต้องปิดถนนบริเวณนี้ และอีกส่วนหนึ่งได้มีการขอใช้พื้นที่ภายในบริเวณศาลากลางจังหวัด ก็ได้มีการขออนุญาตผ่านทางธนารักษ์ฯและทางผู้ว่าราชการจังหวัดฯเป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นกัน นอกจากนี้ยังขออนุญาตทางสถานีพืชและอาหารสัตว์ ในการเชื่อมเส้นทางเดินระหว่างการแสดงแสงสีเสียงกับคาราวานสินค้าอีกด้วย
