เมื่อวันที่ 21 กันยายน ที่บริเวณทุ่งนาข้างศาลาอเนกประสงค์ หมู่ 2 ต.ทุ่งหลวง อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ได้มีชาวนาหลายคนช่วยกันตั้งโต๊ะนำหัวหมู ไก่ ข้าวเปล่า พร้อมกับข้าว กล้วยน้ำว้า น้ำเปล่า น้ำแดง น้ำเขียว มะพร้าวน้ำหอม กล้วยน้ำว้ายกกันมาเป็นเครือ จัดตั้งไว้บนโต๊ะเพื่อทำพิธีขอฝนต่อเทพยดาฟ้าดินและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่เคารพนับถือ หลังจากที่ปีนี้เกิดปัญหาภัยแล้ง นาข้าวที่ปลูกไว้ในพื้นที่ 16 หมู่บ้านนับพันๆ ไร่ ของ ต.ทุ่งหลวง กำลังจะยืนต้นตาย ชาวนาจึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้เกิดฝนตกลงมาในพื้นที่แห่งนี้ตามความเชื่อของตนเอง
นายสงกรานต์ อ่วมอาบ นำหลานสาว 2 คน ได้แก่ ด.ญ.รวินท์นิภา นารอง อายุ 7 ขวบ และ ด.ญ.ปพิชญา นิยมญาติ อายุ 10 ขวบ พร้อมด้วยนางสาวบุญล้น แน่วแน่ และนางพรรณี สดิษฐรักษ์ ที่แต่งชุดแดง มาร่วมกันจัดพิธีเต้นขอฝน โดยมีการเปิดเพลง ฝนจ๋าฝน เป็นเพลงแรกในการทำพิธีเรียกฝนฟ้า และยังมีเพลงฝนเทลงมา เป็นเพลงที่ 2 เพื่อเต้นขอฝน มีชาวบ้านหลายคนที่เป็นเกษตรกรชาวนาก็ได้มาร่วมลุ้นให้กำลังใจกันอย่างคึกคัก ด้วยความหวังที่ว่าเคยเห็นเด็กชายคนหนึ่งทำพิธีรำขอฝนมาแล้ว ปรากฏว่ามีฝนฟ้าตกลงมาจริงๆ จึงได้นำแบบอย่างมาทำพิธีเต้นขอฝนบ้าง
นายสงกรานต์ อ่วมอาบ ชาวนาที่จัดพิธีเต้นขอฝนในครั้งนี้ เปิดเผยว่า มีที่นาอยู่ประมาณ 8 ไร่ ตอนนี้มีเกษตรกรที่ปลูกข้าวในตำบลทุ่งหลวงประมาณ 4,800 ไร่ แต่ที่ทยอยมาแจ้งอยู่ในขณะนี้ประมาณกว่า 30 ราย ประมาณกว่า 100 ไร่ เป็นคนที่เดือดร้อนจากการทำนา ช่วงที่ผ่านมามีฝนตกลงมาเพียงเล็กน้อยไม่ได้น้ำ วันนี้จึงนำเด็กๆ มาเต้นขอฝนเพื่อช่วยให้ชาวนามีน้ำใช้ และยังเป็นการบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพนับถือ ได้แก่ หลวงพ่อต้นธง เจ้าที่เจ้าทางที่อยู่ใน ต.ทุ่งหลวง ให้รับรู้โดยทั่วกันเป็นความเชื่อของชาวบ้าน หลังจากที่เคยมีการจัดพิธีแห่นางแมวมาเมื่อปีที่แล้ว มาปีนี้จึงอยากจัดพิธีเต้นขอฝนดูบ้าง เผื่อจะได้มีฝนตกลงมาช่วยเหลือเกษตรกรที่กำลังรอน้ำฝนทำนาอยู่ในช่วงนี้ คาดว่าน่าจะได้ผล แต่อาจจะไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ยังดีกว่าไม่คิดทำอะไรเลย
จากการสอบถามทราบว่า ปีนี้เป็นปีแรกที่เคยเต้นขอฝน จึงตั้งใจอยากช่วยเหลือชาวบ้านโดยได้ฝึกเต้นขอฝนกับเพลงฝนจ๋าฝนมาหลายวันแล้ว อีกทั้งวันนี้ยังมีชาวบ้านใจดีใส่ชุดสีแดงมาร่วมเต้นเป็นเพื่อนด้วย
อย่างไรก็ตามสำหรับการจัดพิธีดังกล่าว ชาวนาที่ตำบลทุ่งหลวงหวังอยากที่จะให้ฝนตกเทลงมายิ่งมากยิ่งดี เนื่องจากพื้นที่ตำบลทุ่งหลวงอยู่นอกเขตชลประทาน ทำนาได้ปีละ 1 ครั้งเท่านั้น เกษตรกรส่วนใหญ่จะปลูกพืชผัก อ้อย บางคนก็ขุดสระน้ำขนาดเล็กไว้ใช้ในพื้นที่ตัวเอง แต่ส่วนใหญ่ต้องรอน้ำฝนเพื่อใช้อุปโภค บริโภคเพียงอย่างเดียว ซึ่งขณะนี้กำลังประสบปัญหาภัยแล้งอย่างหนักจากฝนทิ้งช่วง สำนักงานเทศบาลตำบลทุ่งหลวงได้ประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรชาวนาที่ประสบปัญหาการทำนาจากฝนทิ้งช่วงให้รีบมาขึ้นทะเบียน เพื่อรัฐจะได้หาแนวทางช่วยเหลือในเบื้องต้นต่อไป
