ชาวบ้านหัวดงโวย ฝายชะลอน้ำกรมชลประทานพัง มวลน้ำไหลลงแม่น้ำน่าน หวั่นไม่มีใช้ทำนา

เมื่อวันที่ 24 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพิจิตรว่า หลังจาก จ.พิจิตร ได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อนโพดุล ทำให้น้ำท่วม 12 อำเภอ ท่วมบ้านเรือนประชาชน 45 ตำบล 269 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับผลกระทบ 11,043 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 2 ราย พื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบกว่า 1 แสน 2 หมื่นไร่ ล่าสุด เกษตรกรชาวนา หมู่ 8 ต.หัวดง อ.เมืองพิจิตร เข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชน เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนจากฝายชะลอน้ำของกรมชลประทาน ตั้งอยู่ที่หมู่ 3 บ้านหัวดง ภายหลังถูกน้ำกัดเซาะจนพังทลายเมื่อหลายวันที่ผ่านมา ทำให้มวลน้ำในพื้นที่แก้มลิงไหลลงสู่แม่น้ำน่านอย่างรวดเร็วจนแห้ง ชาวนาหวั่นใจว่าจะไม่มีน้ำในการทำนา ประกอบกับภาครัฐไม่สนใจเข้าไปช่วยเหลือดูแล

นายพีรวิชญ์ ประเสริฐชัยวานิช อายุ 33 ปี ชาวบ้านหัวดง กล่าวว่า พายุโพดุลทำให้เกิดฝนตกหนักจนเป็นเหตุให้หลายพื้นที่ของพิจิตรประสบอุทกภัยน้ำท่วมและน้ำป่าไหลหลาก รวมถึงพื้นที่ ต.หัวดง ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและเป็นทุ่งรับน้ำ หรือแก้มลิงรับน้ำจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ก่อนไหลลงสู่แม่น้ำน่าน โดยในปีนี้มีมวลน้ำจำนวนมากไหลเข้าสู่แก้มลิงในพื้นที่ ต.หัวดง ส่งผลให้ฝายชะลอน้ำของกรมชลประทาน ซึ่งตั้งอยู่ที่หมู่ 3 บ้านหัวดง ถูกน้ำกัดเซาะจนพังทลายเมื่อช่วง 4-5 วันที่ผ่านมา มวลน้ำจำนวนมากในพื้นที่แก้มลิงได้ไหลลงสู่แม่น้ำน่านอย่างรวดเร็ว โดยไม่มีการกักเก็บ ส่งผลให้ชาวนาในพื้นที่ ต.หัวดง และพื้นที่ใกล้เคียงหลายพันครัวเรือน รวมถึงผู้มีอาชีพประมงวิถีชาวบ้าน โดยกลุ่มชาวนาหวั่นว่าเมื่อฝายชะลอน้ำดังกล่าวเกิดพังทลายแล้วจะได้รับผลกระทบ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานไหนให้ความสนใจเข้าไปดูแล จึงวิงวอนภาครัฐแก้ไขโดยเร่งด่วน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image