ตำรวจอุทัยฯ แถลงจับคนร้ายก่อเหตุลักโทรศัพท์มือถือ 57 เครื่อง หลังให้เมียขนไปขาย

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 30 กันยายน ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุทัยธานี พล.ต.ต.วินัย นุชชา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนภูธรจังหวัดอุทัยธานี และ ชุดสืบสวนสอบสวนสถานีตำรวจภูธรหนองฉาง ร่วมแถลงการจับกุม ผู้ต้องหาคดีลักโทรศัพท์มือถือ ร้านขายโทรศัพท์มือถือโมบายแคร์ หมู่ที่ 5 ต.หนองฉาง อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี เมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยขี่รถจักรยานยนต์แบบผู้ชายสีแดง เข้ามาจอดที่บริเวณหน้าร้านที่เกิดเหตุ เมื่อเวลาประมาณ 3:30 น.ของวันเกิดเหตุ แต่งกายสวมใส่กางเกงยีนส์ขายาว เสื้อคลุมแขนยาว ใส่หมวกกันน็อกแบบเต็มใบสีดำลายเขียว สวมรองเท้าแตะหูคีบ ในขณะเกิดเหตุคนร้ายได้เปิดหน้าหมวกกันน็อกทำให้เห็นใบหน้าครึ่งหน้าของคนร้าย ทำการงัดเข้าที่หน้าร้านและเข้าไปก่อเหตุภายในร้านหลังก่อเหตุได้ลักทรัพย์สินเป็นโทรศัพท์มือถือ จำนวนทั้งสิ้น 57 เครื่อง พร้อมเงินสดอีกประมาณ 4,000 บาท ก่อนหลบหนีไป รวมมูลค่าทรัพย์สินทั้งสิ้นกว่า 300,000 บาท

หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดอุทัยธานี และชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรหนองฉาง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด โดยขณะเกิดเหตุคนร้ายได้ทำการเปิดหน้าหมวกกันน็อก ทำให้เห็นใบหน้าครึ่งหน้าของคนร้าย พร้อมสืบสวนหาข่าวในพื้นที่และเส้นทางการหลบหนีของคนร้าย จนทราบว่า คนร้ายที่เข้ามาก่อเหตุในคดีนี้คือ นายอรุณ หมื่นมหาใจ อายุ 26 ปี ที่อยู่ 350 ถนนรักการดี ต.อุทัยใหม่ อ.เมือง จ.อุทัยธานี โดยหลังก่อเหตุนายอรุณได้นำโทรศัพท์มือถือของกลาง จำนวน 1 เครื่อง ให้นางวาสนา สังขวิสุทธิ์ ซึ่งเป็นภรรยา อายุ 31 ปีที่อยู่ 24/3 หมู่ 6 ต.หนองแก อ.เมือง จ.อุทัยธานี ไปจำนำไว้ที่ร้านโทรศัพท์แห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.หนองมะค่าโมง อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี ในราคา 3,000 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน จึงได้ร่วมกันเดินทางไปสืบสวนติดตามและได้ทำการตรวจยึดโทรศัพท์ดังกล่าว จากทางเจ้าของร้านที่ จ.สุพรรณบุรี โดยความยินยอมเพื่อประกอบคดี และได้ดำเนินการสืบสวนติดตามจนพบตัว นายอรุณและนางวาสนา

Advertisement

ต่อมาวันที่ 29 กันยายน เวลาประมาณ 18.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ติดตามจับกุมตัว นายอรุณ และนางวาสนาได้ในพื้นที่ อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยสอบถามบุคคลทั้งสองถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

นายอรุณ ให้การยอมรับว่าได้เข้าก่อเหตุลักทรัพย์ในคดีนี้จริง ส่วนนางวาสนา แจ้งว่าไม่รู้ว่านายอรุณ ไปก่อเหตุมา และนายอรุณได้ยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจยึดทรัพย์ที่ได้ลักไปทั้งหมดเพื่อประกอบคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้เชิญตัวนายอรุณ และนางวาสนา มาพบพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรหนองฉาง และได้ตรวจยึดของกลางทั้งหมดนำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรหนองฉาง เพื่อทำการสอบสวนและดำเนินคดี

ด้าน พล.ต.ต.วินัย กล่าวว่า คดีนี้ได้ภาพจากกล้องวงจรปิด ขณะที่คนร้ายลงมือก่อเหตุ ได้ทำการเปิดหน้าหมวกกันน็อกขึ้นจึงทำให้เห็นใบหน้าครึ่งหน้าของคนร้าย จึงเป็นช่องที่ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเริ่มทำการแกะรอยได้เพิ่มเติม จนนำมาสู่การดำเนินการติดตามจับกุมตัวได้สำเร็จ เบื้องต้นทราบพฤติการคนร้ายนี้ว่า มีอาชีพขายของเก่า จึงคาดว่าอาจจะทำการลักมาแล้วขายไปทันที ประกอบกับก่อนที่จะเกิดเหตุในครั้งนี้ ในพื้นที่อ.หนองขาหย่าง และ อ.หนองฉาง ได้เกิดเหตุคนร้ายเข้างัดบ้านเรือนประชาชน และลักโทรศัพท์มือถืออยู่ภายในบ้านไปหลายราย โดยยังคงอยู่ระหว่างการติดตามสอบสวนว่า เป็นคนร้ายคนเดียวกันกับคดีนี้หรือไม่ โดยอยากให้ผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความและเบาะแสเพิ่มเติม เพื่อคลี่คลายคดีดังกล่าว

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image