เมื่อวันที่ 30 กันยายน นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ฝ่ายปกครอง รวมถึง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษานครพนม เขต 1 และหน่วยงานเกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม ติดตามการดูแลช่วยเหลือ ด.ญ.หนึ่งฤทัย แซ่ซิ้ม หรือน้องฟ้า อายุ 14 ปี อยู่บ้านเลขที่ 78 บ้านนายอ หมู่ 6 ต.นางาม อ.เรณูนคร จ.นครพนม ปัจจุบันกำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านนายอ ซึ่งเป็นนักเรียนเรียนดี แต่ยากจน และเป็นเด็กกตัญญู โดยประสบปัญหาทางสังคม พ่อแม่แยกทางกัน ต้องดิ้นรนต่อสู้ชีวิต ดูแลพ่อ คือ นายหน่าย แซ่ซิ้ม อายุ 60 ปี ที่เจ็บป่วยเป็นมะเร็งโพรงจมูก ระยะที่ 4 และมีปัญหาหูไม่ได้ยินจนไม่สามารถทำงานรับจ้างได้ ส่งผลกระทบต่อรายได้ ในชีวิตประจำวัน ไม่มีเงินไปเรียนหนังสือ ต้องอาศัยเพื่อนบ้านคอยช่วยเหลือดูแล อีกทั้ง ต้องดิ้นรนหาทางดูแลรักษาพ่อที่ป่วย จนคณะครูอาจารย์ รวมถึงชาวบ้านที่พบเห็นเกิดความสงสารถึงสภาพความรันทดของชีวิต และเป็นห่วงอนาคตการเรียน จึงได้มีการประสานไปขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยงานเกี่ยวข้อง และนำเรื่องราวชีวิตไปเผยแพร่ผ่านสื่อโซเชียล
ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รวมถึงหน่วยงานเกี่ยวข้อง ได้รับทราบปัญหา จึงได้กำชับให้ จังหวัดนครพนมเข้าไปตรวจสอบดูแลช่วยเหลือเร่งด่วน โดยมอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นำเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าไปติดตามดูแลช่วยเหลือใกล้ชิด นอกจากนี้ โรงเรียน นำโดย นายชาลี ภูสวัสดิ์ อายุ 56 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านนายอ ได้ร่วมกับผู้นำชุมชน ท้องถิ่น คณะครูอาจารย์ ตั้งกองทุนรับบริจาคช่วยเหลือ เพื่อสนับสนุนงบประมาณภาครัฐ ที่ไม่เพียงพอ ซึ่งเปิดรับบริจาคให้ผู้ใจบุญร่วมสมทบทุนบริจาคผ่านบัญชี ธนาคารกรุงไทย สาขา อ.เรณูนคร ชื่อ ด.ญ.หนึ่งฤทัย แซ่ซิ้ม บัญชีเลขที่ 435-0-439-72-2 ซึ่งมีคณะกรรมการคอยกำกับดูแลเป็นระบบ เพื่อนำมาดูแลช่วยเหลือในระยะยาว ล่าสุดพบว่ามียอดการบริจาคช่วยเหลือ เป็นเงินแล้วกว่า 2 ล้านบาท
นายสยาม เปิดเผยว่า วันนี้ได้นำเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานเข้าเยี่ยมให้กำลัง และวางแนวทางการช่วยเหลือ ซึ่งนายกฯได้รับทราบข้อมูล และสั่งการให้จังหวัดนครพนม เข้ามาดูแลช่วยเหลือเร่งด่วน ทั้งด้านการดูแลสภาพครอบครัว ดูแลด้านการรักษาพ่อที่ป่วย ไปจนถึงการดูแลปรับปรุงสภาพที่อยู่อาศัย ที่สำคัญคือ เรื่องการดูแลทุนการศึกษาให้มีอนาคตที่ดี ซึ่งจังหวัดนครพนมได้ประสานทั้งโรงพยาบาล (รพ.) นครพนม เขตพื้นที่การศึกษา เข้ามาช่วยเหลือแล้ว และให้ทุนการศึกษา จนกว่าจะเรียนจบในระดับสูงสุด และมีงานทำในส่วนของการตั้งกองทุนรับบริจาค ได้กำชับให้คณะกรรมการมีการดูแลให้นำเงินไปใช้ประโยชน์มากที่สุด โดยจ.นครพนม จะได้ประสานไปยังหน่วยงานเกี่ยวข้องทั้ง 12 อำเภอ หมั่นตรวจสอบ ช่วยกันสอดส่องดูแล ผู้ด้อยโอกาส ครอบครัวยากจน และผู้ประสบปัญหาทางสังคม ให้ได้รับการช่วยเหลือทั่วถึง ซึ่งจังหวัดได้มีโครงการไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และมีการลงพื้นที่ดูแลช่วยเหลือต่อเนื่อง
ด.ญ.หนึ่งฤทัย กล่าวว่า ขอขอบพระคุณผู้ใจบุญ ผู้ใหญ่ใจดีทุกคนที่ดูแลเอาใจใส่ให้การช่วยเหลือ ก่อนนี้ยอมรับลำบากมาก สงสารพ่อป่วยมะเร็ง ทำงานหนักไม่ได้ จากปกติ พ่อดิ้นรนทำงานรับจ้าง หาเงินให้ไปโรงเรียน พักหลังพ่อป่วย ลำบาก ต้องดูแลช่วยเหลือตัวเอง ไปทำงานรับจ้างช่วยคุณครู ทำงานบ้าน พิมพ์งาน ได้วันละ 50-100 บาท แล้วแต่งาน เพราะไม่มีเงิน จึงคิดหาทางช่วยพ่อมาตลอด สงสารพ่อป่วย แต่ต้องดูแลครอบครัว ส่วนตังไปโรงเรียน ใช้วันละ 10 -20 บาท ถือว่าเพียงพอ สำหรับซื้อข้าวกินมาถึงวันนี้ดีใจ ที่พ่อจะได้รับการรักษา ไม่มีอะไรจะตอบแทน นอกจากจะตั้งใจเรียนให้ได้รับการศึกษาที่ดี มีงานทำที่ดี และเป็นคนดี ของสังคม ตลอดไป
