เดือด! ปิดถนนแสงชูโตประท้วงไล่ ผอ.รร.ดังเมืองกาญจน์ เหตุพฤติกรรมส่อทุจริตหลายเรื่อง

เดือด! ปิดถนนแสงชูโตประท้วงไล่ ผอ.รร.ดังเมืองกาญจน์ เหตุพฤติกรรมส่อทุจริตหลายเรื่อง ขณะที่อีกกลุ่มออกมารวมตัวหนุน ก่อนมีชายฉกรรจ์ปรี่ชกหน้า อดีต ผอ.รร.เทพมงคลรังษี ที่มายืนดูเหตุการณ์ ล้มทั้งยืน ส่วนผู้สื่อข่าวถูกชายกลุ่มเดียวกันทำร้าย พร้อมโล่เข้าแจ้งความแล้ว

เมื่อเวลา 08.00 น. วันนี้ 30 กันยายน ที่บริเวณหน้าป้ายโรงเรียนวิสุทธรังษี ต.ท่าล้อ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี นายรพี ชำนาญเรือ แกนนำประชาชนเพื่อประชาชนได้นำรถยนต์ติดป้ายร้องเรียนพฤติกรรมไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสมของ นายหงษ์ดี ศรีเสน ผู้อำนวยการโรงเรียนวิสุทธรังษี โดยหยิบยกกรณี เงินเดือนครูและบุคลากรในโรงเรียนไม่ได้รับมา 2 เดือน รวม 2.4 ล้านบาท, ไม่ได้จ่ายค่าไฟให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.กาญจนบุรี กว่า 3 ล้านบาท และเงินในโครงการวิ่งการกุศล กว่า 1 ล้านบาท หายไป โดยนำเงินหลวงเข้าบัญชีส่วนตัว ด้วยสาเหตุดังกล่าวจึงต้องออกมาเรียกร้องให้ตรวจสอบการใช้งบประมาณ ทวงความจริง ความถูกต้อง และความเป็นธรรมให้กับสังคม โดยได้ขึ้นไปยืนบนหลังคารถกล่าวปราศรัยด้วยเครื่องขยายเสียงโจมตี นายหงษ์ดี โดยรถคันดังกล่าวจอดขวางถนนแสงชูโต ซึ่งเป็นถนนสายหลัก ส่งผลทำให้รถติดยาวหลายกิโลเมตร พร้อมประกาศด้วยว่า ตนมีหลักฐานเกี่ยวกับการทุจริตอย่างชัดเจน แต่ทำไมผู้มีอำนาจจึงไม่พิจารณาสั่งให้มีการโยกย้าย นายหงษ์ดี ออกจากพื้นที่ เพื่อให้กระบวนการการตรวจสอบเกิดขึ้นอย่างบริสุทธิ์ ยุติธรรม นอกจากนี้ นายรพี ยังเตรียมยื่นหนังสือร้องเรียนถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ด้วย

ขณะที่มีผู้ปกครองและนักเรียนจำนวนหนึ่ง ได้รวมตัวถือป้ายเขียนข้อความให้กำลังใจ นายหงษ์ดี ศรีเสน ผู้อำนวยการโรงเรียนวิสุทธรังษี ที่บริเวณหน้าป้ายโรงเรียนเช่นเดียวกัน โดยระบุว่า ผอ.บริหารงานด้วยความโปร่งใส พร้อมร้องขอให้กลุ่มบุคคลหยุดทำลายโรงเรียนได้แล้ว โดยมีตัวแทนขึ้นกล่าวให้กำลังใจ นายหงษ์ดี ผ่านเครื่องขยายเสียงขนาดใหญ่

Advertisement

ต่อมา นายหงษ์ดี ได้เดินออกมาเผชิญหน้ากับ นายรพี ที่ด้านหน้าของโรงเรียน พร้อมระบุว่า ตนเองไม่ได้กระทำผิดในเรื่องที่ถูกกล่าวหา และมีหลักฐานที่สามารถชี้แจงได้หมดทุกเรื่อง ก่อนจะเดินกลับเข้าไปภายในโรงเรียน โดยมีสื่อมวลชนส่วนหนึ่งเดินตามไปเพื่อขอสัมภาษณ์ถึงกรณีที่เกิดขึ้น

ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่เห็นว่าสถานการณ์เริ่มตึงเครียด และเกรงว่าทั้งสองฝ่ายอาจจะปะทะกันรุนแรง จึงได้กันทั้งสองฝ่ายออกห่างจากกัน พร้อมสั่งให้งดใช้เครื่องขยายเสียง พร้อมกับเชิญตัว นายรพี ไป สภ.ท่าม่วง เพื่อทำการเปรียบเทียบปรับเนื่องจากจอดรถกีดขวางการจราจร และใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ขออนุญาต

Advertisement

ต่อมา นายหงษ์ดี ศรีเสน ผู้อำนวยการโรงเรียนวิสุทธรังษี ได้เปิดห้องที่ทำงานฯ ชี้แจงกับสื่อมวลชนว่า เมื่อวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา นายรพี ชำนาญเรือ ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนกล่าวหาตนในฐานะผู้อำนวยการโรงเรียนวิสุทธรังษี ต่อ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ศึกษาธิการจังหวัดกาญจนบุรี และผู้อำนวยการสำนักอำนวยการเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 8 กาญจนบุรี ในเรื่องการทำงานว่ามีพฤติกรรมไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสม และอาจมีการทุจริตเกิดขึ้นในโรงเรียน และต่อมาระหว่างวันที่ 19-30 ก.ย.62 นายรพี ได้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ เฟซบุ๊ก ในการลงภาพ ข้อความ การไลฟ์สด ในเรื่องดังกล่าวอีกหลายครั้ง ตลอดจนมีการนัดหมายให้พี่น้องประชาชนมารวมตัวกันที่โรงเรียนวิสุทธรังษีในวันนี้

ซึ่งการร้องเรียนนั้นเป็นสิ่งที่กฎหมายรองรับให้สามารถทำได้ และตนพร้อมรับการตรวจสอบจากหน่วยงานต่างๆ ผู้มีอำนาจในการตรวจสอบ ซึ่งขณะนี้ทราบว่าได้มีการดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว ซึ่งตนขอยืนยันว่าทุกอย่างที่มีการกล่าวหาสามารถอธิบายและชี้แจงได้อย่างชัดเจนและถูกต้อง ซึ่งจะได้ทำการชี้แจงต่อหน่วยงานที่มีอำนาจต่อไป

โดยตนขอเรียกร้องให้ผู้ร้องเรียนหยุดการกระทำที่อยู่นอกกรอบของกติกาบ้านเมือง หยุดทำการที่เป็นการละเมิด ให้ร้าย หมิ่นประมาทตน หยุดการกดดัน แทรกแซงหรือใช้วิธีการอื่นใดเพื่อให้ผู้มีอำนาจในการตรวจสอบข้อเท็จจริงดำเนินการใดๆ ตามที่ตนประสงค์ ควรให้อิสระในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตามกรอบเวลาและขั้นตอนการทำงานที่กฎหมายบัญญัติไว้ ทั้งนี้หาผู้ร้องเรียนมีพยานหลักฐานใดๆ ที่เชื่อว่าจะพิสูจน์ข้อเท็จจริงต่างๆ ได้ ขอให้ดำเนินการจัดส่งให้แก่หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบดำเนินการ

พร้อมกับกล่าวชี้แจงในประเด็นหลักๆ ว่า เงินเดือนครูอัตราจ้างที่ระบุว่าไม่ได้รับมา 2 เดือน รวม 2.4 ล้านบาท นั้น เรื่องนี้มีระเบียบขั้นตอนในการดำเนินการของทางราชการ ซึ่งอาจจะเกิดความล่าช้าไปบ้าง แต่ในวันนี้สามารถไปกดเงินได้แล้ว ส่วนกรณีระบุว่าโรงเรียนไม่ได้จ่ายค่าไฟให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.กาญจนบุรี กว่า 3 ล้านบาทนั้น ขอชี้แจงว่า ไม่มีโรงเรียนใดในเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 8 (สพม.8) ที่ไม่ค้างค่าไฟ โดยส่วนใหญ่จะค้างชำระประมาณ 3 เดือน ซึ่งทุกโรงเรียนจะนำส่งใบแจ้งหนี้ไปยืนของบฯ เหลือจ่ายของ สพม.8 ให้เป็นผู้พิจารณาสั่งจ่ายค่าไฟจำนวนดังกล่าวกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคโดยตรง และในส่วนของเงินในโครงการวิ่งการกุศล กว่า 1 ล้านบาท ที่ระบุว่าหายไป นั้น เงินจำนวนนี้ยังอยู่ในบัญชีครบถ้วน โดยได้ทำการเช็คยอดล่าสุดเมื่อวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา สามารถตรวจสอบได้ อย่างไรก็ตามตนขอยืนยันว่า ไม่มีการทุจริตหรือการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและจริยธรรมเกิดขึ้นในโรงเรียนวิสุทธรังษีตามที่มีการร้องเรียนอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ตนพร้อมยอมรับการตรวจสอบจากหน่วยงานที่มีอำนาจและมีกฎหมายรับรองเท่านั้น การกระทำอื่นใดที่เป็นไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นการละเมิด หมิ่นประมาท หรือฝ่าฝืนต่อสิทธิและเสรีภาพของตนทุกกรณี ตนมีความจำเป็นต้องดำเนินคดีตามกฎหมายกับบุคคลเหล่านั้น เพราะกฎหมู่จะอยู่เหนือกฎหมายไม่ได้ ดังนั้นตนก็จะต้องปกป้องศักดิ์ศรีของข้าราชการในฐานะผู้บริหารโรงเรียน โดยได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับบุคคลที่กระทำการละเมิดตนในข้อหาหมิ่นประมาทไว้เรียบร้อยแล้ว และเพื่อเป็นการแสดงให้เห็นว่าตนบริสุทธิ์ใจอีกด้วย

และกล่าวทิ้งท้ายว่า ขอให้ทุกท่านได้ใช้ความระมัดระวังในการรับข้อมูลข่าวสาร โดยเฉพาะทางสื่อออนไลน์ การรับฟังข้อเท็จจริงเพียงบางส่วน จากบุคคลบางคน อาจทำให้เข้าใจขอเท็จจริงคลาดเคลื่อนและผิดพลาดไป จึงขอให้รอผลการพิจารณาจากหน่วยงานที่เป็นกลาง ที่ได้เข้ามาทำการสอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องนี้เสียก่อน อย่างได้หลงเชื่อหรือตกเป็นเครื่องมือของบุคคลหนึ่งบุคคลใด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายต่างทยอยสลายตัวจากจุดที่ชุมนุม และหลงเหลือผู้ที่มายืนดูเหตุการณ์เพียงไม่กี่คน ปรากฏว่า ได้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น โดยมีชายฉกรรจ์ ซึ่งเป็น 1 ในกลุ่มผู้สนับสนุน นายหงษ์ดี ศรีเสน ผู้อำนวยการโรงเรียนวิสุทธรังษี ได้ปรี่เข้าไปชกใบหน้า นายศุภชาติ ถนอมมิตร อดีต ผอ.รร.เทพมงคลรังษี ซึ่งเกษียณราชการ จนหงายหลังล้มหัวฟาดพื้น โดย นายศุภชาติ ไม่ได้อยู่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด เพียงแต่มีบ้านพักอยู่ติดรั้ว รร.วิสุทธรังษี และออกมายืนดูเหตุการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้นเท่านั้น

ขณะที่ผู้สื่อข่าวท้องถิ่น ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ และกำลังจะใช้กล้องถ่ายรูปที่สะพายติดตัวมาวิ่งตามไปบันทึกภาพหน้าตาของคนร้ายที่ปรี่เข้าชก นายศุภชาติ แต่กลับถูกชายฉกรรจ์อีกคนหนึ่งซึ่งในกลุ่มเดียวกันกับบุคคลดังกล่าวล็อคคอจนได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้ยังมีผู้สื่อข่าวเคเบิ้ลทีวีในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ถูกลูกหลงไปด้วย โดยถูก 1 ในกลุ่มชายฉกรรจ์กลุ่มเดียวกัน ชกเข้าหน้าอกและไหล่ ขณะกำลังข้ามถนนเพื่อกลับไปทำงานอื่นต่อ ซึ่งทั้งหมดได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.ท่าม่วง เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดแล้ว

อย่างไรก็ตามหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้เป็นชนวนเหตุทำให้เรื่องราวที่เกิดขึ้นลุกลามบานปลาย จนขณะนี้กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์อย่างกว้างขวาง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image