ทนายโต้เสี่ยภูเก็ต ใครกันแน่หลอกลวง! เผยถูกเบี้ยว100ล. ค่าจ้างเดินเรื่องเพิกถอนที่ดินเกาะนาคาน้อย

เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2562 ที่ทำการสมาคมผู้สื่อข่าวภูเก็ต ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายณรงค์ฤทธิ์ เนติเกียรติวงศ์ ทนายความบริษัทแห่งหนึ่ง พร้อมพวก หอบหลักฐานเข้าร้องขอความเป็นธรรม กรณีนายชาญวิทย์ กิจเลิศสิริวัฒนา นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเคยอ้างสิทธิ์การครอบครองที่ดินจำนวนหนึ่งบนเกาะนาคาน้อย อ.ถลาง จ.ภูเก็ต และเป็นข่าวโด่งดังกรณีขัดแย้งกับคู่กรณีซึ่งเป็นดารานักแสดงชื่อดัง ได้แถลงข่าวกล่าวหาตนพร้อมพวกหลอกลวง ต้มตุ๋น แอบอ้างว่ารู้จักกับนายตำรวจใหญ่ และผู้มีอำนาจในการออกโฉนดที่ดินบนเกาะนาคาน้อยเนื้อที่ประมาณ 50 ไร่ ซึ่งเป็นใบ ภบท.5 ทำให้นายชาญวิทย์เสียเงินรวมกว่า 80 ล้าน โดยมีนายสาหนิ นาวีว่อง ประธานชมรมปลากะตักเกาะยาว จ.พังงา มอบช่อดอกไม้ให้กำลังใจนายณรงค์ฤทธิ์

นายณรงค์ฤทธิ์ กล่าวอีกว่า เดิมตนกับนายชาญวิทย์ ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่เนื่องจากนายชาญวิทย์เป็นเจ้าของบริษัท ภูเขาหกลูก จำกัด ซึ่งถูกดาราดังคนหนึ่งร้องเรียนจนที่ดินบนเกาะนาคาน้อยถูกเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ ซึ่งตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อขายที่ดิน แต่มาเกี่ยวข้องหลังนายชาญวิทย์ถูกเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ เพราะนายชาญวิทย์จ้างตนเป็นทนายความ เพื่อเอาคืนในการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดินของตระกูลดาราดังคนดังกล่าว โดยมีสัญญาว่าจ้างทนายความเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งที่ผ่านมาตนทำตามเงื่อนไขข้อตกลงแห่งสัญญาทุกประการ และแล้วเสร็จสมบูรณ์ ที่ดินดังกล่าวมีคำสั่งถูกเพิกถอนตั้งแต่ปี 2560 แต่นายชาญวิทย์ไม่จ่ายค่าทนายความตามสัญญาที่ทำไว้ 100 ล้านบาท และยังว่าจ้างให้ตนทำอย่างอื่นต่อ

“ตามประเด็นข่าวที่ออกมากล่าวหาว่า ผมเป็นแก๊งต้มตุ๋น อ้างว่ารู้จักนายตำรวจใหญ่ เพื่อออกโฉนดที่ดินหรือหลอกขายที่ดิน ขอชี้แจงว่า ผมไม่ได้มีหน้าที่หรือเกี่ยวข้องกับการซื้อขาย หรือ ออกโฉนด ที่ผ่านมา ได้ทำตามเงื่อนไขข้อตกลงตามสัญญาเกี่ยวกับการตรวจสอบและนำมาซึ่งการเสนอเพิกถอนเอกสารสิทธิของที่ดินคู่กรณีของนายชาญวิทย์เท่านั้น การที่นายชาญวิทย์ฯอ้างเหตุถูกหลอกลวงต้มตุ๋น โดยสูญเงินกว่า 80 ล้านบาท เป็นข้อความเท็จและใส่ร้ายป้ายสี เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของทนายความ จึงใช้สิทธิ์ฟ้องร้องดำเนินคดีต่อนายชาญวิทย์ ข้อกล่าวหาหมิ่นประมาท ด้วยการโฆษณาไว้แล้ว รวมทั้งจำเป็นต้องดำเนินคดีกับนายชาญวิทย์อีกหลายข้อกล่าวหา และหลายคดี โดยจะยื่นฟ้องต่อศาลเอง” นายณรงค์ฤทธิ์ กล่าวและว่า

สำหรับการซื้อขายที่ดินนั้น มีการทำกันมาก่อนตนรับดำเนินการยื่นตรวจสอบสารบบการออกเอกสารสิทธิที่ดินหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3ก) เลขที่ 1462 หมู่ที่ 5 (เกาะนาคาน้อย) และมีการร้องเรียนต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นเรียบร้อย จนนำมาซึ่งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และได้ข้อสรุปเสนออธิบดีกรมที่ดินเพื่อพิจารณาเพิกถอนหนังสือเอกสารสิทธิดังกล่าว ตามเงื่อนไขที่มีการทำสัญญาว่าจ้างกันเมื่อเดือนพฤษภาคม 2560 ซึ่งระบุค่าจ้างไว้ที่ 100 ล้านบาท แต่ถึงปัจจุบันตนยังไม่ได้รับเงินค่าจ้างจำนวนดังกล่าว

Advertisement

ส่วนที่เคยรับมาเป็นเงินหลักแสนที่ใช้ระหว่างการดำเนินการ เพราะตนต้องเดินทางจาก จ.ภูเก็ต ไปกรุงเทพฯ เพื่อประสานการดำเนินการต่างๆ ที่ผ่านมาเคยขอเบิกเงิน 5 ล้านบาท แต่นายชาญวิทย์บอกว่าไม่มีเงินพอ และพาไปพบเพื่อนนักธุรกิจ ก่อนขอให้ตนนำสมุดเช็คของตนเองไปวางกู้เงินจากเพื่อนนักธุรกิจมามาจ่ายให้ตนเอง ประมาณ 2 ล้านบาท และที่ผ่านมามีการทวงถามมาโดยตลอด แต่ได้รับการบ่ายเบี่ยงเรื่อยมา จนนำมาซึ่งการบอกเลิกจ้างตนเมื่อเดือนมีนาคม 2562 จึงไม่ทราบใครกันแน่ที่หลอกลวง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image