เปิดใจ ‘ยายนวย’ ขอโทษกรณีนำ ‘นกใส่ถุง’ มาขาย ย้ำรู้จักบุญบาปแต่ต้องหาเลี้ยงชีวิต จนท.ลงพื้นที่ให้ความรู้

เปิดใจ “ยายนวย” แม่ค้าขายอาหารพื้นบ้านวัย 63 ปีชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ ชี้ไม่ได้จับนกใส่ถุงเอง แต่มีคนนำมาส่งและใส่ถุงไว้แล้ว ย้ำรู้จักบาปบุญแต่ต้องหาเลี้ยงชีวิต พร้อมขอโทษทุกคนหากมองเป็นการทรมานสัตว์ ยันเลิกขายนกตลอดชีวิต ขณะที่เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าลงพื้นที่ให้ความรู้ยายนวย เพื่อป้องกันความรู้เท่าไม่ถึงการณ์นำสัตว์ป่าคุ้มครองมาขาย

จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์รูปภาพนกกระจอกถูกขังอยู่ในถุงร้อนเจาะรู ซึ่งปกติที่เห็นทั่วไปนกมักจะถูกจับใส่อยู่ในกรงนำมาวางขาย เพื่อให้ผู้คนทั่วไปซื้อไปปล่อยทำบุญอยู่บนแผงที่ตลาดเช้าใน จ.กาฬสินธุ์ โดยเจ้าของอ้างว่ารับนกมาในราคา 90 บาท ทำให้ผู้พบเห็นต่างรู้สึกสลดใจ ซึ่งหลังจากมีการโพสต์ภาพและข้อความออกไปทำให้โลกโซเชียลต่างแสดงความคิดเห็นและวิพากษ์วิจารณ์กันจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่มองว่าเป็นการจับสัตว์มาทรมานเกินไปหรือไม่ พร้อมเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งทำการตรวจสอบ

ล่าสุดเวลา 08.00 น.วันที่ 4 ตุลาคม 2562 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบภายในตลอดสดทุ่งนาทอง เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ เพื่อตามหาแม่ค้าที่อยู่ในโพสต์ ซึ่งพบนางอำนวย นนทะไชย หรือยายนวย อายุ 63 ปี แม่ค้าขายอาหารพื้นบ้านภายในตลาดสดดังกล่าว ซึ่งเป็นชาว ต.บึงวิชัย อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ โดยแผงขายของยายนวยเป็นแผงเล็กๆ ขายอาหารพื้นบ้านอีสานตามฤดูกาล เช่น ตั๊กแตน หอย ปลาไหล และแมลงต่างๆ โดยวันนี้ยายนวย ไม่ได้นำนกกระจอกมาขาย มีเพียงตั๊กแตน และหอยเท่านั้น เนื่องจากคนส่งนกไม่ได้นำนกมาส่ง

อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ยังมีนายนิยม กิตติวงศ์ตระกูล ผู้อำนวยการส่วนทรัพยากรธรรมชาติ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.กาฬสินธุ์ นายกฤษณ์ จันทชุม หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าลำปาว พร้อมเจ้าหน้าที่เข้ามาให้คำแนะนำยายนวย เรื่องการจับนกกระจอกใส่ถุง ซึ่งไม่ควรทำ และให้คำแนะนำเรื่องการนำสัตว์ หรืออาหารพื้นบ้านอีสานมาขาย เพื่อป้องกันความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ในการนำสัตว์ป่าคุ้มครองมาขาย โดยเฉพาะนกชนิดต่างๆ ทั้งนี้ยายนวยเองก็ยืนยันว่าจะเลิกขายนกกระจอกไปตลอดชีวิต หลังจากมีคนถ่ายภาพแล้วนำไปโพสต์จนหลายคนมองว่าเป็นการทรมานสัตว์และออกข่าว อีกทั้งที่ผ่านมาก็ไม่อยากขายนกอยู่แล้ว แต่เนื่องจากมีคนนำมาส่งจึงจำเป็นต้องขายเพื่อหาเงินเลี้ยงชีวิตและเลี้ยงลูก พร้อมยืนยันว่าตนเองไม่ได้จับนกกระจอกใส่ถุงเอง แต่คนที่นำนกมาส่งนั้นจับใส่ถุงและเจาะรูไว้แล้ว ซึ่งตนเพียงแค่ขายเท่านั้น

Advertisement

นางอำนวย นนทะไชย หรือยายนวย อายุ 63 ปี แม่ค้าขายอาหารพื้นบ้าน กล่าวว่า ตนเองมีอาชีพขายแมลง และอาหารพื้นบ้านอีสานตามฤดูกาลมาหลายสิบปีแล้ว ซึ่งที่ผ่านมารายได้ก็พออยู่พอกิน ใช้จ่ายในครัวเรือน และเลี้ยงลูก เนื่องจากมีสามีไปรับจ้างช่วยหารายได้ แต่หลังจากสามีเสียชีวิตลงไปเมื่อประมาณ 7 ปีที่แล้ว ทำให้ภาระทุกอย่างตกมาอยู่ที่ตน ทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ อาหารการกิน และต้องส่งเสียลูกชายเรียนหนังสือ ซึ่งตนมีลูกชายอยู่ 2 คน คนหนึ่งเรียนจบแล้วไปทำงานที่กรุงเทพฯ และคนเล็กกำลังเรียนอยู่ระดับปริญญาตรี ทำให้ตนต้องรับทุกอย่างมาขาย ทั้งตั๊กแตน หอย จิ้งหรีด แมลงต่างๆ แม้กระทั่งนก เพื่อหวังว่าจะได้กำไรนิดๆหน่อยๆไปเป็นค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ทั้งนี้ในวันนั้นจำได้ว่ามีผู้ชายคนหนึ่งมาขอซื้อนกกระจอก และพยายามขอต่อรองราคาเหลือ 90 บาท ซึ่งตนก็ยืนยันว่าไม่สามรถลดได้ ซึ่งไม่คิดว่าจะมีคนถ่ายภาพแล้วนำไปโพสต์ในโลกโซเชียลจนเป็นเรื่องเป็นราว

นางอำนวย กล่าวว่า สำหรับนกกระจอกที่ตนขายนั้นมีคนนำมาส่งที่ตลาด ซึ่งตนจะรับซื้อครั้งละประมาณ 100-200 บาท จะมีประมาณ 10 ตัว โดยคนที่นำมาส่งจะจับนกใส่ถุงๆละ 1 ตัว พร้อมเจาะรูมาเรียบร้อยแล้ว จากนั้นตนก็จะนำมาแยกขาย 3 ตัวร้อย ซึ่งตนไม่ได้จับนกใส่ถุง และไม่ได้ขายทุกวัน เพราะบางวันไม่มาส่ง ทั้งนี้การขายนกนั้นเดิมตนก็ไม่อยากขาย เพราะวันไหนที่เห็นนกอยู่ในถุงก็รู้สึกสงสาร และกลัวบาปเหมือนกัน แต่จำใจต้องขายเพราะต้องหาเงินเลี้ยงชีวิตตนเอง แต่หากหลายคนมองว่าเป็นการทำที่ไม่ถูกไม่ควร ตนก็ต้องขอกราบขอโทษทุกคนที่เห็นแล้วทำให้เกิดความไม่สบายใจ และตนยืนยันว่าจะเลิกขายนกไปตลอดชีวิต แต่จะยังขายอาหารอีสานจำพวกแมลง และหอยเหมือนเดิม

ด้านนายนิยม กิตติวงศ์ตระกูล ผู้อำนวยการส่วนทรัพยากรธรรมชาติ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า วันนี้มาทำความเข้าใจกับยายนวย เกี่ยวกับเรื่องที่มีการโพสต์ในโลกโซเชียล ที่มีการขายนกกระจอกใส่ถุง ซึ่งเท่าที่สอบถามยายนวย บอกว่ารับทราบแล้ว และยืนยันว่าจะไม่ขายนกอีกแล้ว เพราะตัวยายนวยเองก็สงสารนก และไม่มีเจตนานำนกมาใส่ถุง เพราะคนที่นำนกมาส่งใส่ถุงมาอยู่แล้ว

Advertisement

ขณะที่นายกฤษณ์ จันทชุม หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าลำปาว กล่าวว่า สำหรับนกในประเทศไทยนั้นส่วนใหญ่เกือบทุกชนิดจะเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ยกเว้นนกกระจอก นกกระทา นกเขาชวา นกเขาใหญ่ และนกพิราบฯ ที่ไม่ใช่สัตว์ป่าคุ้มครอง ซึ่งหากมีการล่าหรือจับมาขายจะมีความผิดตามกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า มาตรา 20 มีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งวันนี้ได้เข้ามาตรวจสอบ ซึ่งโชคดีที่ยายนวยขายนกกระจอก ซึ่งไม่ใช่สัตว์ป่าคุ้มครอง จึงให้คำแนะนำยายนวยว่า หากเป็นนกชนิดอื่นนั้นอาจจะผิดกฎหมาย เพราะคนที่จับมาส่ง รวมทั้งตัวยายเองก็ไม่รู้จักว่านกที่จับมานั้นเป็นชนิดใด แต่ยายนวยยืนยันว่าจะเลิกขายนกแล้ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image