ผู้ว่าโคราช สั่งเร่งป้องฝุ่นพิษ รีเอ็กซเรย์ 60 รง.อุตสาหกรรมควบคุมการก่อฝุ่น-งดจุดธูปเทียนในวัด

เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ทุกภาคส่วนในจังหวัดนครราชสีมาขณะนี้ ต่างตื่นตัวกับสถานการณ์ค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ เพราะแม้ว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้วก็ตาม แต่จะนิ่งนอนใจไปไม่ได้ ซึ่งในปีที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่า จังหวัดไม่มีจุดตรวจวัดค่าฝุ่นละอองที่แน่นอน จึงทำให้เกิดปัญหาค่าฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐาน และในปีนี้ มีประชาชนนำเครื่องวัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กแบบ Pocket มือถือ ไปตรวจวัดค่าฝุ่นในจุดที่มีการจราจรหนาแน่น พร้อมกับเรียกร้องให้มีการแก้ไขปัญหามลพิษฝุ่นละอองในเขตอำเภอเมืองนครราชสีมาอย่างจริงจัง

ทางจังหวัดจึงเตรียมการตั้งแต่วันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา โดยเดินหน้า 6 มาตรการเร่งด่วนป้องกันการเกิดฝุ่นละอองทั้ง 32 อำเภอของจังหวัดนครราชสีมา โดยรณรงค์เร่งรัดไม่ให้มีการเผาตอซังใบอ้อย รวมถึงจัดชุดออกตรวจโรงงานอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มว่าจะปล่อยฝุ่นละอองออกมา ซึ่งได้ให้อุตสาหกรรมจังหวัดฯ สกรีนโรงงานในพื้นที่จังหวัด กว่า 1,000 แห่ง พบว่า มีประมาณ 60 กว่าโรงงานที่เข้าข่ายล่อแหลมเสี่ยงปล่อยฝุ่นละออง PM2.5 ออกมา จึงได้ขึ้นบัญชีเอาไว้และได้จัดชุดฯ ออกตรวจทั้งหมดแล้ว

ส่วนกรณีที่มีภาคเอกชนนำเครื่องตรวจวัดค่าฝุ่นละออง PM2.5 ไปตรวจวัดในจุดที่การจราจรหนาแน่น แล้วระบุว่า ค่าฝุ่นละออง PM2.5 เกินกว่า 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร แต่หน่วยงานรัฐไปตรวจกลับพบว่าไม่เกินค่าที่กำหนด ทำให้เกิดข้อถกเถียงกันในเรื่องนี้ ทางจังหวัดฯ จึงขอให้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี นำเครื่องตรวจวัดค่าฝุ่นละออง PM2.5 ที่ใช้ในการเรียนการสอนมาตั้งไว้ที่บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี และใช้เครื่องวัดดังกล่าว เป็นเครื่องหลักในการตรวจติดตามวัดค่าฝุ่นละออง PM2.5 ในเขตเมืองนครราชสีมา ซึ่งปีนี้ทุกภาคส่วนในจังหวัด ฯ มีความตื่นตัวมากขึ้น และกรมมลพิษได้นำเครื่องตรวจวัดค่าฝุ่นละออง PM2.5 มาติดตั้งให้กับจังหวัด ฯ ที่บริเวณฝั่งตรงข้ามโรงเรียนอนุบาลนครราชสีมา โดยกำหนดให้มีการรายงานผลการตรวจวัดให้ผู้บริหารของจังหวัดฯ ทราบทุกๆวันศุกร์ เริ่มตั้งแต่วันศุกร์ที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งตลอดสัปดาห์ผลตรวจวัดฝุ่นละอองยังไม่เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งการที่มีฝนตกในช่วงนี้ ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ค่าฝุ่นละอองลดต่ำลง

ขณะเดียวกันทางจังหวัด ได้ออก 6 มาตรการประกาศควบคุมค่าฝุ่นละอองใน 32 อำเภอ 1.การควบคุมการก่อสร้างขนาดใหญ่จะต้องมีการฉีดพ่นน้ำไม่ให้ฝุ่นละอองฟุ้งกระจาย รวมถึงจะต้องคลุมผ้าใบปิดให้มิดชิดกรณีที่มีการบรรทุกขนย้ายสิ่งต่างๆ 2.เรื่องการจราจร ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและขนส่ง ออกไปสุ่มตรวจวัดควันดำรถในพื้นที่ที่มีการจราจรหนาแน่น 3.ตรวจติดตามซ้ำ 60โรงงานอุตสาหกรรมเป้าหมายของปีที่แล้ว ซึ่งหากมีโรงงานเข้าข่ายเสี่ยงเพิ่ม ก็ให้จัดชุดออกไปตรวจโดยเร็ว 4.เรื่องการรณรงค์งดเผาตอซังข้าวและอ้อย ทางจังหวัดฯ ได้ออกประกาศขอความร่วมมือพี่น้องเกษตรกรและผู้ประกอบการได้งดเผาพืชผลทางการเกษตร รวมไปถึงการเผาขยะในที่โล่งแจ้งด้วย 5.เรื่องการรณรงค์งดจุดธูปเทียนในที่สาธารณะ พบว่าในห้วงปีที่ผ่านมา ประชาชนที่เดินทางมาสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีและศาลหลักเมือง ได้ให้ความร่วมมืองดจุดธูปเทียนทั้ง 2 แห่ง และ 6.เรื่องการควบคุมฝุ่นละอองจากโครงการก่อสร้างเมกกะโปรเจ็คต์ต่างๆ ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปกำกับดูแลเพื่อป้องกันปัญหาอย่างเข้มงวดแล้ว

Advertisement

สำหรับเครื่องพ่นละอองน้ำที่เคยติดตั้งที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารีและบริเวณโดยรอบ ทางจังหวัดจะนำมาติดตั้งใหม่อีกครั้งเมื่อพ้นหน้าฝนไปแล้ว ขณะที่มาตรการงดการเผาในที่สาธารณะและมาตรการลดการจุดธูปเทียนนั้น ทางจังหวัดจะมีการขยายผลไปยังวัดต่างๆที่มีประชาชนจำนวนมากเข้าไปกราบไหว้สักการะ อย่างเช่นวัดศาลาลอย เป็นต้น ซึ่งต้องขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนได้ช่วยกันป้องกันอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในจังหวัดนครราชสีมาเกินกว่าค่ามาตรฐานที่กำหนด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image