เมื่อวันนี้ 5 ตุลาคม เจ้าหน้าที่ศูนย์รับแจ้ง 191 ตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายว่า พบผู้ต้องหายืมรถจักรยานยนต์เป็นเวลาหลายสัปดาห์ แล้วไม่ยอมคืน ขอให้เจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวให้ ซึ่งขณะนี้พบตัวผู้ต้องหาในบ้านเช่าไม่มีเลขที่ อยู่ตรงข้ามกับวิทยาลัยเทคนิคหนองคาย สาขา 2 ต.หาดคำ อ.เมือง จ.หนองคาย เจ้าหน้าที่ศูนย์รับแจ้ง 191 จึงได้ประสานไปยัง สภ.เมืองหนองคาย ให้ตรวจสอบ
ต่อมา พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ผกก.สภ.เมืองหนองคาย จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายฟ้า และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองหนองคาย ออกตรวจสอบ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึงบ้านเช่าที่เกิดเหตุพบว่าผู้ต้องหาทราบชื่อภายหลังคือนายอุทัย ใจทน อายุ 39 ปี และนางสาวแก้วใจ สุระคาย อายุ 50 ปี ภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ 1 ต.บ้านเดื่อ อ.เมือง จ.หนองคาย กำลังหลบหนีออกจากบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้เสียหายติดตามมาทันที่บริเวณศาลาที่พักริมทาง หน้าวิทยาลัยเทคนิคหนองคาย สาขา 2 จึงได้ทำการควบคุมตัวมาที่งานสืบสวน สภ.เมืองหนองคาย
จากการสอบสวนเบื้องต้นทำให้ทราบว่า เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2562 ที่ผ่านมาผู้ต้องหาทั้ง 2 คนได้เข้าไปยืมรถจักรยานยนต์ รุ่นเวฟ 100 สีแดงของนายเล่ง สายสุดตา อายุ 73 ปี อยู่บ้านเลขที่ 159 หมู่ 14 ต.หาดคำ อ.เมือง จ.หนองคาย โดยบอกว่าจะขอยืมรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 100 สีแดง ไปซื้อน้ำมันมาใส่จักรยานยนต์ของตนที่น้ำมันหมด นายเล่ง ก็ให้ยืมเนื่องจากรู้จักนางสาวแก้วใจ หลังจากยืมรถจักรยานยนต์ไปแล้ว ก็นำไปขายต่อให้กับร้านซ่อมรถจักรยานยนต์แห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย ในราคา 2,000 บาท นายเล่ง ผู้เสียหายได้ติดตามทวงคืนแต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ จึงได้เข้าแจ้งความเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2562 ที่ผ่านมา และได้ร่วมกับญาติของนายลี นิลเกตุ อยู่บ้านเลขที่ 63 หมู่ 7 ต.สีกาย อ.เมือง จ.หนองคาย ที่ถูกนายอุทัย (ผู้ต้องหา) ที่ช่วงนั้นได้ไปเป็นช่างเดินสายไฟฟ้า ที่บ้านของนายลี หลอกขอซื้อรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีส้มขาว ในราคา 3,000 บาท หลังได้รถไปก็ไม่ยอมจ่ายเงินให้ และยังได้นำรถไปขายต่อให้กับคนที่รู้จัก ในราคา 3,500 บาท จนกระทั่งทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 คนมาเช่าบ้านอยู่ และได้แจ้งศูนย์รับแจ้ง 191 ตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย ให้ช่วยเหลือจับกุม
ภายหลังสอบสวนเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองหนองคาย ได้ออกติดตามรถจักรยานยนต์ของกลาง จนสามารถติดตามรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ มาได้ ส่วนรถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นเวฟ พบว่าถูกขายต่อหลายทอด เจ้าหน้าที่กำลังติดตามคืนให้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองหนองคาย ก็ได้ส่งตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน พร้อมของกลางให้กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายเล่ง สายสุดตา (ผู้เสียหาย) ได้ฝากเตือนว่า อย่าให้ใครยืมรถจักรยานยนต์อย่างเด็ดขาด แม้ว่ารู้จักกัน เพราะอาจจะโดนหลอกเหมือนกับตน ซึ่งตนได้รับความลำบากมากหลังจากถูกหลอกเอารถไป เพราะรถคันดังกล่าวตนใช้ขับขี่ไป-มาเพื่อทำธุระต่าง ๆ ทุกวัน
